Ubisoft อยู่ในขั้นวิกฤตหลังหุ้นดิ่ง 85% การบริหารล้มเหลว ชี้ชะตาด้วย Assassin's Creed Shadows

Ubisoft กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในประวัติศาสตร์ ปี 2024 ที่ผ่านมา ถือเป็นหายนะ ด้วยราคาหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 85% จากจุดสูงสุดในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 จาก €84.60 เหลือเพียง €12.53 ในปัจจุบัน หากคุณลงทุน $1,000 ในช่วงที่ Ubisoft รุ่งเรือง ตอนนี้คุณจะเหลือเงินเพียง $150 เท่านั้น แถมปีงบประมาณปัจจุบันก็ไม่ได้ดีขึ้น ผลประกอบการย่ำแย่ เกมไม่เป็นไปตามเป้า ต้นทุนการพัฒนาสูงขึ้น เกมถูกยกเลิก และเลื่อนวางจำหน่าย หลายปีของการบริหารที่ผิดพลาด การใช้จ่ายเกินตัว และ "ไม่เข้าใจ" ความต้องการของตลาดเกม ทำให้ Ubisoft มาถึงทางแยกที่สำคัญ และดูเหมือนว่า Assassin's Creed Shadows จะเป็นความหวังสุดท้าย แต่อนาคตของ Ubisoft ก็ยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย

มีรายงานอย่างกว้างขวางว่า Ubisoft กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับที่ปรึกษา เกี่ยวกับแนวทางในการรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า Tencent ยักษ์ใหญ่จากจีน สนใจที่จะซื้อกิจการและนำ Ubisoft ออกจากตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม การเจรจาดูเหมือนจะหยุดชะงัก เนื่องจากเงื่อนไขสำคัญในการเจรจาคือ พี่น้อง Guillemot ผู้ก่อตั้ง Ubisoft ต้องการรักษาอำนาจการควบคุมไว้ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ Tencent อาจไม่ยินยอม เพราะ พี่น้อง Guillemot ก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Ubisoft ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้

ในตอนนี้ การหยุดชะงักของการเจรจาดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ของทั้งสองฝ่าย Tencent จะยังคงซื้อหุ้นและเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นต่อไป ในขณะที่พี่น้อง Guillemot จะรอจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม เพื่อเริ่มการเจรจาใหม่อีกครั้ง เนื่องจาก Ubisoft มีกำหนดวางจำหน่าย Assassin's Creed Shadows ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หาก Assassin's Creed Shadows ล้มเหลว Tencent จะมีโอกาสเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในราคาที่ต่ำลง ในทางกลับกัน หากเกมประสบความสำเร็จ พี่น้อง Guillemot จะมีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจา

แหล่งข่าวภายในเผยว่า สถานการณ์อาจเป็นใจให้กับพี่น้อง Guillemot มากกว่า จากข้อมูลของแหล่งข่าวใน Ubisoft ยอดสั่งจองล่วงหน้าของ Assassin's Creed Shadows อยู่ในระดับสูงก่อนที่เกมจะถูกเลื่อน และยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าจะยังตามหลัง Assassin's Creed Valhalla (ซึ่งวางจำหน่ายทั้งบนคอนโซลรุ่นเก่าและรุ่นปัจจุบันในขณะนั้น) ก็ตาม ดูเหมือนว่า Assassin's Creed Shadows จะเป็นความหวังสุดท้ายของ Ubisoft และแม้ว่าเกมจะประสบความสำเร็จอย่างมาก ก็ไม่ได้หมายความว่า Ubisoft จะหลุดพ้นจากปัญหา

Ubisoft และการบริหารที่ผิดพลาดเป็นของคู่กัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีรายงานเกี่ยวกับโปรเจกต์เกมนับไม่ถ้วนที่ประสบปัญหาการบริหาร และดูเหมือนว่าปัญหานี้จะไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุหลักมาจากการที่ผู้บริหารระดับสูง "เล่นพรรคเล่นพวก" และ "เห็นแก่ครอบครัว" ปกป้องกันเอง โดยไม่คำนึงถึงความคับข้องใจของนักพัฒนาหลายพันคน โปรเจกต์ที่ประสบปัญหาอย่างชัดเจน คือ Skull & Bones เกมที่ Ubisoft นิยามว่าเป็น "AAAA" และ Beyond Good and Evil 2 ซึ่งยังไม่มีกำหนดวางจำหน่าย แม้จะประกาศมาแล้ว 16 ปี แต่นอกเหนือจากเกมดังเหล่านี้ การบริหารที่ผิดพลาดยังนำไปสู่การยกเลิกโปรเจกต์เกมนับไม่ถ้วน หรืออยู่ในขั้นตอนการพัฒนาที่สับสน โดยไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จสิ้น หนึ่งในเกมที่น่าจับตามอง คือ Project U ที่เพิ่ง "กลับไปเริ่มต้นใหม่" หลังจากพัฒนามา 5 ปี และมีงบประมาณบานปลาย นักพัฒนาที่เคยทำงานในโปรเจกต์นี้ เผยว่า "ไม่แปลกใจเลยถ้างบจะทะลุ 100 ล้านเหรียญฯ ไปแล้ว"

XDefiant หนึ่งในเกม Free-to-Play Shooter ที่ "ดูมีอนาคต" ที่สุดของ Ubisoft และในอุตสาหกรรมเกมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา กลับเปิดตัวแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ เนื่องจากการบริหารที่ผิดพลาด และผู้บริหารระดับสูงที่ "เห็นแก่ตัว" หลังจากที่เกมเปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจ นักพัฒนาบอกว่า "หายนะ" มาเยือนแน่ เพราะจำนวนผู้เล่นลดลงอย่างมาก และ "ผู้เล่นไม่เติมเงิน" เกมขาดทุนหลายล้านเหรียญฯ เฉพาะค่าพัฒนา ยังไม่รวมค่าเซิร์ฟเวอร์ และอื่น ๆ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ Ubisoft ไม่สามารถแบกรับได้ในสภาวะปัจจุบัน และไม่เห็นอนาคตว่าเกมนี้จะทำกำไรได้

ท้ายที่สุด การบริหารที่ผิดพลาดของ Ubisoft เป็นความท้าทายที่ร้ายแรงสำหรับบริษัท แม้ว่าคณะกรรมการของ Ubisoft จะเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับปัญหาของบริษัท (โดยมีสมาชิก 5 คนจากตระกูล Guillemot) แต่จากข้อมูลของผู้ที่ TheGamer ได้พูดคุยด้วย ไม่มีใครเชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงใด ๆ จากการพูดคุยกับอดีตและพนักงานปัจจุบันของ Ubisoft ในระดับต่าง ๆ มีการคาดเดากันอย่างกว้างขวางว่า CEO Yves Guillemot "ยอมจมไปกับเรือ [Skull & Bones]" ดีกว่า "สละตำแหน่ง" และพี่น้อง Guillemot คนอื่น ๆ ก็คิดเช่นเดียวกัน นี่คืออุปสรรคที่บริษัทจะต้องเอาชนะให้ได้ ไม่ว่า Assassin's Creed Shadows จะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม ผลสำรวจภายในประจำปีล่าสุดของ Ubisoft ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความคิดเห็นต่อบริษัท (แบบไม่ระบุชื่อ แต่ระบุแผนกและสตูดิโอ) แสดงให้เห็นว่า "ความเชื่อมั่นของพนักงาน" ที่มีต่อบริษัทนั้นต่ำมาก แม้ว่าจะไม่มีตัวเลขที่แน่นอนสำหรับทั้งบริษัท แต่บางสตูดิโอมีระดับความเชื่อมั่นโดยรวมต่ำเพียง 15-20% เท่านั้น

ดูเหมือนว่า Ubisoft จะต้อง "เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" ในปี 2025 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การ "ขายกิจการ" ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุด แต่การตัดสินใจดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อนักพัฒนาหลายพันคนอย่างแน่นอน ในทางกลับกัน Ubisoft อาจพยายาม "กัดฟันสู้" โดยเฉพาะอย่างยิ่งหาก Assassin's Creed Shadows ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ แต่บริษัทจำเป็นต้อง "ปรับโครงสร้าง" ลดจำนวนโปรเจกต์ที่กำลังพัฒนาลง "เรียกคืนศรัทธา" จากผู้เล่น โดยเริ่มจาก Shadows และ "หยุดไล่ตามเทรนด์"

ปัจจุบัน Ubisoft มีเกมฟอร์มยักษ์หลายเกมที่กำลังพัฒนา และมีกำหนดวางจำหน่ายภายในสิ้นปี 2026 ได้แก่ Splinter Cell Remake, Far Cry 7, Assassin's Creed Shadows, Assassin's Creed Black Flag Remake, Assassin's Creed Hexe, Ghost Recon Over, Prince of Persia: Sands of Time Remake และโปรเจกต์ขนาดเล็กอื่น ๆ ภายใต้ IP ดัง ส่วน The Division 3, Rayman Remake, Assassin's Creed Remake ในโค้ดเนม Stardust, Assassin's Creed RPG เรือธงอีกภาค และ Beyond Good and Evil 2 (ซึ่งกำลังคืบหน้าไปด้วยดี) ยังอีกไกล

แต่ในทางกลับกัน Ubisoft ยังคงทุ่มเงินให้กับ Project U, Project Scout (Battle Royale ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Apex Legends), Project Maverick (Far Cry แนว Extraction), เกม NFT และอีกหลายเกมที่ "คนมีสามัญสำนึก" มองว่า "ไม่น่าจะคืนทุน" ไม่ใช่ว่า Ubisoft ต้องหยุดลอง "ไอเดียใหม่ ๆ" (เช่น ALTERRA ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Animal Crossing ซึ่งดู "น่าทึ่งมาก" ในความคิดเห็นของผู้เขียน) แต่บางโปรเจกต์ "ถูกกำหนดให้ล้มเหลวอย่างชัดเจน" จนน่าสงสัยว่าทำไมบริษัทยังคงทุ่มเงินหลายร้อยล้านเหรียญต่อปี ทั้ง ๆ ที่ "ไม่มีเงิน" กับโปรเจกต์เหล่านี้ โดยหวังว่าจะเป็น Fortnite เกมต่อไป

ทำให้ในตอนนี้ Ubisoft กำลัง "อยู่บนทางแยก" อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่า Ubisoft จะเลือกทางไหน "การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง" คือสิ่งจำเป็น เพื่อความอยู่รอด

ที่มา: insider-gaming