ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปรากฏการณ์ รีวิวบอมบ์ หรือการระดมให้คะแนนรีวิวในเชิงลบ ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ผู้เล่นเกมเลือกใช้เพื่อแสดงออกถึงความไม่พอใจหรือความคิดเห็นต่อผลิตภัณฑ์เกมใดเกมหนึ่ง ตัวอย่างเช่น กรณีของเกม Helldivers 2 ที่เผชิญกับการรีวิวบอมบ์จากประเด็นข้อกำหนดเกี่ยวกับบัญชี PSN หรือเกม Warhammer 40,000: Space Marine 2 ที่ถูกรีวิวบอมบ์จากสาเหตุการปรับลดความสามารถ ที่ผู้เล่นไม่พอใจ การเคลื่อนไหวในลักษณะนี้มีนัยสำคัญมากพอที่บริษัท Take-Two Interactive ผู้จัดจำหน่ายเกม Grand Theft Auto ได้เคยระบุในเอกสารทางการเงินว่า การรีวิวบอมบ์อาจส่งผลกระทบในทางลบ ทั้งต่อชื่อเสียงของบริษัทและการสูญเสียทางการเงิน ล่าสุด ดูเหมือนว่าแฟรนไชส์เกม Borderlands ได้กลายเป็นเป้าหมายล่าสุดของการกระทำในลักษณะดังกล่าว
ข้อตกลงผู้ใช้งานปลายทาง (EULA) ใหม่ ถูกกล่าวหาว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้คะแนนรีวิวของ Borderlands ตกต่ำลง ตามการรายงานเบื้องต้นจากเว็บไซต์ GamesRadar แฟรนไชส์ Borderlands ทั้งหมดกำลังเผชิญกับการระดมรีวิวเชิงลบอันเนื่องมาจากรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในข้อตกลงผู้ใช้งานปลายทาง (End User License Agreement หรือ EULA)
จากการตรวจสอบบนแพลตฟอร์ม Steam พบว่า ตั้งแต่เกม Borderlands ภาคแรกสุดไปจนถึงภาคล่าสุดอย่าง Borderlands 3 มีรีวิวเชิงลบจำนวนมากถูกโพสต์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้สถานะการรีวิวของเกมเหล่านี้หลายเกมเปลี่ยนเป็นผสมกัน
ส่วนหนึ่งของรีวิวเชิงลบจากผู้เล่นรายหนึ่งระบุว่า "การอัปเดตที่ล่วงล้ำนี้ทำให้เกมกลายเป็น 'สปายแวร์' อย่างมีประสิทธิภาพ และฉันขอแนะนำให้คนอื่นๆ รายงานเกมนี้ต่อ Steam สำหรับการบุกรุกความเป็นส่วนตัวที่น่ารังเกียจนี้ เมื่อใดก็ตามที่ปัญหานี้ได้รับการแก้ไขแล้วเท่านั้น ฉันจึงจะลบรีวิวนี้" รีวิวเชิงลบจำนวนมากสะท้อนความรู้สึกคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม ตามที่ GamesRadar ตั้งข้อสังเกต ผู้เล่นบางส่วนก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่า EULA มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจริงหรือไม่ ในกระทู้บนเว็บบอร์ด Reddit ที่พูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ ผู้ใช้งานรายหนึ่งชี้ว่า EULA ที่ปรากฏในปัจจุบันนั้น ไม่ได้แตกต่างไปจาก EULA ฉบับเก่าที่ผู้เล่นเคยให้ความยินยอมไปแล้วมากนักกลุ่มคนที่ไม่รู้เรื่องในโลกออนไลน์แค่ถูกปลุกปั่นด้วยความเกลียดชังและข้อมูลเท็จ แล้วก็แห่ตามกระแสกันไป เกมเมอร์รายหนึ่งเขียนแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์นี้
เป็นที่น่าสังเกตว่า การที่ซอฟต์แวร์บางประเภท เช่น ระบบป้องกันการโกง อาจมีการขอเข้าถึงข้อมูลในระดับราก (root-level access) ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้เล่นกำลังแสดงความกังวลนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเกมที่เน้นการเล่นแบบหลายคนเป็นหลัก รวมถึงเกมจากค่าย Riot Games นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า EULA ที่เป็นประเด็นนั้น ยังเป็นเอกสารที่มีลักษณะทั่วไปซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท Take-Two Interactive ไม่ได้จำกัดเฉพาะเจาะจงสำหรับเกมในซีรีส์ Borderlands เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่ทุกข้อความใน EULA จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อ Borderlands และในทางกลับกัน ข้อสังเกตสุดท้ายคือ EULA ดังกล่าวได้รับการอัปเดตไปเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การที่เพิ่งจะเกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม จึงทำให้สถานการณ์นี้ยิ่งดูแปลกประหลาดมากขึ้น
