Lars Wingefors ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Embracer Group หลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่

แชร์เรื่องนี้:
Lars Wingefors ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Embracer Group หลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่

Lars Wingefors ลงจากตำแหน่ง CEO ของ Embracer Group หลังการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

Lars Wingefors, CEO ของ Embracer Group ผู้ซึ่งดูแลการดำเนินงานในช่วงเวลาที่บริษัทเผชิญกับความวุ่นวาย มีการเลิกจ้างพนักงานหลายพันคนและปิดสตูดิโอจำนวนมาก ได้ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ได้แยกทางกับบริษัท แต่จะเปลี่ยนไปรับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร (Executive Chair of the Board) แทน

"แม้ว่าหนทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป แต่ผมก็ภูมิใจอย่างยิ่งในความสำเร็จที่เกิดขึ้นได้จากทีมงานที่มีความสามารถของเรา ซึ่งได้สร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าทึ่งให้กับเหล่าเกมเมอร์" Wingefors กล่าวในแถลงการณ์ "บทบาทใหม่นี้จะช่วยให้ผมสามารถมุ่งเน้นไปที่การริเริ่มเชิงกลยุทธ์, การควบรวมและซื้อกิจการ, และการจัดสรรเงินทุน เพื่อให้แน่ใจว่า Embracer จะเติบโตและประสบความสำเร็จต่อไป ผมเชื่อมั่นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ว่าสิ่งที่ดีที่สุดยังคงรอเราอยู่ข้างหน้า"

ตามรายงานจากเว็บไซต์ eurogamer ผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่คือ Phil Rogers ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรอง CEO ของ Embracer และ CEO ของ Crystal Dynamics – Eidos โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป

ช่วงเวลาที่ Wingefors ดำรงตำแหน่ง CEO นั้นเต็มไปด้วยความผันผวน เขาได้นำพาบริษัทเข้าสู่ยุคแห่งการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ด้วยการเข้าซื้อกิจการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Gearbox, Saber Interactive, Crystal Dynamics และอื่นๆ รวมถึงการซื้อบริษัทบอร์ดเกม Asmodee ด้วยมูลค่า 2.75 พันล้านยูโร (ประมาณ 108,600 ล้านบาท) อย่างไรก็ตาม การขยายตัวที่ไม่ยั่งยืนนี้ได้ปรากฏชัดเจนขึ้นหลังจากข้อตกลงมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 73,400 ล้านบาท) กับ Savvy Games Group ซึ่งได้รับทุนจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ล่มลงอย่างกะทันหันในปี 2023

หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว Wingefors ได้ประกาศ "โครงการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างครอบคลุม" ซึ่งท้ายที่สุดได้นำไปสู่การเลิกจ้างพนักงานหลายพันคน และการปิดหรือขายสตูดิโอจำนวนมาก เช่น Volition ผู้พัฒนาเกม Saints Row ที่ปิดตัวลงในเดือนสิงหาคม 2023 และ Free Radical Design ที่กำลังพัฒนาโปรเจกต์ TimeSplitters ภาคใหม่ ก็ถูกปิดตัวลงในไม่กี่เดือนต่อมา หลังจากนั้น Gearbox ก็ถูกขายให้กับ Take-Two Interactive ในขณะที่ Saber Interactive ได้แยกตัวเป็นอิสระ

Saints Row

ต่อมา Wingefors ได้ยอมรับว่ามี "รายการยาวเหยียด" ของสิ่งที่เขาควรจะทำแตกต่างออกไป แต่ก็กล่าวว่า "มันง่ายที่จะมองย้อนกลับไปเมื่อทุกอย่างผ่านพ้นไปแล้ว"

ที่มา eurogamer
embracer

แชร์เรื่องนี้:
Badeedooboy
Badeedooboy

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง