Kevin Feige ประธานของ Marvel Studios ได้เปิดเผยว่าลูกชายของเขาเองก็ไม่ได้สนใจภาพยนตร์หรือรายการทีวีของ Marvel เท่าไหร่นักในตอนแรก จนกระทั่งเขาได้มาติดเกม Marvel Rivals และเริ่มให้ความสนใจอย่างจริงจัง
เว็บไซต์ Dexerto รายงานว่า แม้ว่าภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ของ Marvel จะมีถึงสามเรื่องที่ติด 10 อันดับภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล และกวาดรายได้รวมกันไปถึง 6.769 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.48 แสนล้านบาท) เฉพาะจากบ็อกซ์ออฟฟิศ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแฟนคลับ
และที่น่าตลกก็คือ กรณีนี้เกิดขึ้นกับลูกชายของบอสใหญ่ MCU อย่าง Kevin Feige เอง แม้ว่าพ่อของเขาจะเป็นผู้นำในการสร้างภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแต่ละปี แต่ลูกชายของเขากลับไม่ได้รู้สึกอินไปด้วย อย่างที่ Feige ได้เล่าให้สื่อฟังในการสนทนาล่าสุดซึ่ง The Wrap ได้เข้าร่วมด้วย
จนกระทั่ง NetEase Games ได้เปิดตัวเกม Hero Shooter ที่โด่งดังอย่าง Marvel Rivals ออกมานั่นแหละ ลูกชายของ Feige ถึงได้เริ่มแสดงความสนใจอย่างจริงจัง
ในระหว่างการสนทนากับสื่อ Feige ถูกถามในหัวข้อการดึงดูดกลุ่มประชากรที่เด็กลงมาสู่ MCU โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรเจกต์ในอนาคตจะสร้างความสนใจให้กับเด็กที่ยังไม่เกิดเมื่อตอนที่ Iron Man เริ่มต้นเฟส 1 ในปี 2008 ได้อย่างไร
ปรากฏว่า ครัวเรือนของ Feige เองก็ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ บอสใหญ่ของ MCU เล่าติดตลกว่าลูกชายของเขาเพียงแค่ "แสร้งทำเป็นสนใจในเชิงสนับสนุน" แต่ไม่ได้ผูกพันกับตัวละครหรือเนื้อเรื่องในระยะยาวจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเปิดตัวของ Marvel Rivals ในปี 2024 ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ดังที่ Feige อธิบาย "ทันใดนั้น เขาก็เริ่มมาถามผมให้เล่าเรื่องเกี่ยวกับ Hela เพิ่มเติม บอกเล่าเรื่องราวของ The Punisher และตัวละครอื่นๆ เหล่านี้ จากนั้นเขาก็เริ่มไปตามหาตัวละครเหล่านี้ในโชว์"
เห็นได้ชัดว่าการที่ Marvel ได้ก้าวเข้าไปในสื่อบันเทิงทุกรูปแบบนั้นกำลังให้ผลตอบแทนที่ดี เกมอย่าง Marvel Snap, Marvel Rivals และแม้กระทั่งเกมที่กำลังจะมาถึงอย่าง Marvel Tōkon: Fighting Souls ล้วนมีศักยภาพที่จะนำแฟนๆ หน้าใหม่เข้ามาสู่ MCU ได้
ที่มา Dexerto
