สาวก T-Doll ห้ามพลาด! Girls' Frontline: Fire Control ภาคใหม่ล่าสุดของซีรีส์ Girls' Frontline ได้เปิดให้ทดลองเล่นในรูปแบบ Early Access (Soft Launch) แล้วบน Google Play Store เฉพาะในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยข่าวดีคือ Progress ทั้งหมดในช่วง Early Access นี้จะไม่ถูก Reset ส่วนผู้เล่นบน iOS และ PC อาจจะต้องรอข่าวดีกันอีกหน่อย
การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเดิมที่เป็นแนว Turn-based Tactical Strategy ได้พลิกโฉมมาเป็นเกม Action Shooter มุมมองบุคคลที่สาม (TPS) ที่ผสมผสานองค์ประกอบของ Roguelike และ MOBA เข้าด้วยกันอย่างลงตัว โดยเน้นไปที่ประสบการณ์การเล่นแบบ Competitive 5v5 ที่มีทั้งโหมด PvPvE และ Co-op PvE ให้เลือกเล่น
สำหรับตัวเกมยังคงอยู่ภายใต้การพัฒนาของทีม Mica Team เช่นเคย แต่ในภาคนี้ดูเหมือนจะยังไม่มีเนื้อเรื่องหลักให้เสพ แต่จะเน้นไปที่เกมเพลย์การต่อสู้แบบ 5v5 เป็นหลัก ซึ่งรายละเอียดและโหมดการเล่นในช่วง Early Access นี้จะเป็นอย่างไรเรามาดูกัน
โหมดการเล่นหลัก เน้นความมันส์แบบ 5v5
ในช่วง Soft Launch นี้ ตัวเกมได้เปิดให้เล่นทั้งหมด 4 โหมดหลัก ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากเกม Competitive ชื่อดังหลายเกม:
- โหมดแข่งทีม (Team Deathmatch)
- กฎกติกาสุดคลาสสิก 5v5 ที่เข้าใจง่าย
- ทีมไหนสังหารศัตรูได้ครบ 30 แต้มก่อน หรือมีแต้มสูงกว่าเมื่อเวลา 10 นาทีหมดลง จะเป็นฝ่ายชนะ
- เริ่มเกมจะได้รับ Data Point 8,000 แต้มทันทีสำหรับซื้อ "ชิพ" (บัฟ) เพื่อเซ็ตอัปตัวละครก่อนลุย
- โหมดฝึกซ้อมการต่อสู้ (MOBA / Combat Situation)
- นี่คือโหมด MOBA 5v5 ที่ให้อารมณ์คล้ายเกมอย่าง Deadlock
- ผู้เล่นต้องดันครีป (ทหาร) เพื่อไปโจมตีป้อม (ผู้พิทักษ์) ของศัตรู และทำลายฐานหลักให้ได้
- ป้อมจะอยู่ในสถานะ "ต้านทานดาเมจ" หากไม่มีครีปของเราอยู่ในระยะ
- ผู้เล่นจะได้รับ Data Point จากการสังหารศัตรู, ตีครีป หรือตีป้อม เพื่อนำไปซื้อชิพสกิลที่เก่งขึ้นตามลำดับ (เขียว -> ฟ้า -> ม่วง -> ทอง)
- โหมดนี้ใช้เวลาเล่นประมาณ 20 นาที
- โหมดชิงฐาน (Control Point)
- โหมดที่แฟนเกม Overwatch คุ้นเคยกันดี
- ทั้งสองทีมต้องต่อสู้กันเพื่อยึดพื้นที่ตรงกลาง
- ทีมไหนสามารถยึดพื้นที่ได้จนถึง 100% ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ
- โหมดนี้จะได้รับ Data Point 8,000 แต้มตั้งแต่เริ่มเหมือนโหมด Team Deathmatch
- โหมดดันคุ้มกัน (Payload)
- อีกหนึ่งโหมดที่คล้าย Overwatch (โหมดดัน Payload)
- ผู้เล่นจะต้องคุ้มกันหุ่นยนต์ตัวหนึ่งให้ดันแผ่นโล่ไปให้ไกลที่สุดในเส้นทาง
- ทีมไหนดันได้ไกลกว่าเมื่อหมดเวลา (15 นาที) หรือดันถึงจุดหมายก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ
- โหมดนี้จะเริ่มที่ 500 Data Point และจะได้รับเพิ่มเรื่อยๆ ตามเวลาและการสังหารศัตรู

ระบบเกมเพลย์: "ชิพ" และการอัปเกรดที่น่าจับตา
หัวใจของเกมเพลย์ในภาคนี้คือระบบ "ชิพ" (Chip) ซึ่งทำหน้าที่เหมือนบัฟหรือสกิลติดตัว เราสามารถใช้ Data Point ที่ได้รับในแต่ละแมตช์เพื่อซื้อชิพเหล่านี้ โดยชิพหลักจะใส่ได้ 1 อัน และชิพรอง 8 อัน ชิพจะแบ่งสีตามสายหลักๆ คือ:
- สีแดง: สายดาเมจ
- สีฟ้า: สายป้องกัน
- สีเหลือง: สายซัพพอร์ต

สิ่งที่น่าสนใจและอาจเป็นที่ถกเถียงในเกมแนว Competitive คือ ระบบระดับความชำนาญ ที่ผู้เล่นสามารถอัปเกรด Stat ของตัวละครนอกเกมได้ (เช่น HP, เกราะ, ความเร็วรีโหลด) โดยการส่งของขวัญหรือเล่นตัวละครนั้นบ่อยๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อความสมดุลในการแข่งขัน
ตัวละคร, สกิน และระบบกาชา
ตัวละครในเกมยังคงยกทัพมาจากภาค 2 (เช่น AK-12, Makiatto, Sabrina) ซึ่งสามารถซื้อได้ด้วยเงินในเกมหรือเพชร
ด้านการปรับแต่ง เกมนี้จัดเต็มทั้ง สกินตัวละคร (ตั้งแต่แนวน่ารักไปจนถึงชุดว่ายน้ำ) และ สกินปืน ที่มีให้เลือกหลากหลายและสวยงามไม่แพ้เกมอื่นๆเลย
สำหรับระบบกาชาของเกมนี้เรียกว่า "สร้างฐานดาต้า" ซึ่งเป็นระบบ "สอยดาว" (การันตีของไม่ซ้ำ) โดยการกดแต่ละครั้งจะใช้การ์ดเปิดกาชาเพิ่มขึ้นแบบ Exponential (1 -> 2 -> 4 -> 8 -> 16 -> 29 ใบ) หมายความว่า การันตีได้ของรางวัลใหญ่ (เช่น สกิน Groza รัตติกาล) ที่ 60 ใบนั่นเอง (ประมาณ 6,000 เพชร)
นอกจากนี้ เกมยังมีระบบ Battle Pass (เริ่มต้นประมาณ 260 บาท) และ บัตรรายเดือน (เริ่มต้น 32 บาท) ให้เลือกเติมตามกำลังศรัทธา

ข้อสังเกตและภาพรวมในช่วง Early Access
Girls' Frontline: Fire Control ถือเป็นการแยกภาคออกมาเป็นเกมมือถือแนว Competitive 5v5 ที่น่าสนใจ โดยมีโหมดการเล่นที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย
จุดเด่นและข้อสังเกตที่พบคือ ระบบ Aim Assist (ช่วยเล็ง) ที่ค่อนข้างเป้าดูดไปหน่อย ซึ่งเป็นได้ทั้งข้อดี (ผู้เล่นใหม่หรือคนไม่ถนัดเกมยิงก็เล่นได้ง่าย) และข้อเสีย (อาจทำให้การแข่งขันดูไม่ใช้ฝีมือเท่าที่ควร)
อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่านี่ยังคงเป็นช่วง Early Access เท่านั้น ปัญหาต่างๆ เช่น อนิเมชั่นที่ยังดูแข็งๆ หรือเสียงพากย์ภาษาอังกฤษที่ยังดูทื่อ อาจถูกปรับปรุงแก้ไขในเกมเวอร์ชันเต็มในอนาคต