Nintendo แย้ม Switch 2 อาจขึ้นราคาหลังเปิดตัว! ผลกระทบจากนโยบายภาษี

Nintendo คาดการณ์ผลประกอบการปีงบประมาณ 2569 และเป้าหมายสำหรับ Nintendo Switch 2

Nintendo ได้ประกาศคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปีงบประมาณที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2569 โดยคาดว่า กำไรจากการดำเนินงาน (Consolidated Operating Profit) จะอยู่ที่ 3.2 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 13.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ในขณะที่ยอดขายรวม (Consolidated Sales) คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 63.1% ปัจจัยหลักมาจากการเปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ Nintendo Switch 2 ในวันที่ 5 มิถุนายน 2568 นี้ โดยบริษัทตั้งเป้าจำหน่ายฮาร์ดแวร์ Nintendo Switch 2 จำนวน 15 ล้านเครื่อง และซอฟต์แวร์ 45 ล้านชุด ภายในปีงบประมาณดังกล่าว

นาย Shuntaro Furukawa ประธานบริษัท Nintendo ได้กล่าวในงานแถลงข่าวว่า "การเปิดตัว Nintendo Switch 2 และการทำให้ฮาร์ดแวร์เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว คือภารกิจสำคัญอันดับหนึ่ง" พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะมีการเพิ่มงบประมาณด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขาย

อัตรากำไร Switch 2 ที่ต่ำกว่าคาด และผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

แม้จะคาดการณ์ยอดขายรวมที่เติบโตสูง แต่การเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานกลับอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า สาเหตุหลักมาจาก อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของ Nintendo Switch 2 ที่ยังอยู่ในระดับต่ำในช่วงแรก ประกอบกับ ค่าใช้จ่ายด้านการโฆษณาและส่งเสริมการขายที่เพิ่มสูงขึ้น นาย Furukawa ชี้ว่าการจะเพิ่มอัตรากำไรให้สูงขึ้นนั้น จำเป็นต้อง "เพิ่มจำนวนซอฟต์แวร์ที่ผู้บริโภคซื้อต่อฮาร์ดแวร์หนึ่งเครื่อง"

เป็นที่น่าสังเกตว่า คาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานของ Nintendo ที่ 3.2 แสนล้านเยนนั้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่นักวิเคราะห์ 26 คนคาดการณ์ไว้ที่ 4.404 แสนล้านเยน (รวบรวมโดย IBES) อย่างไรก็ตาม Nintendo ได้ประกาศเพิ่มเงินปันผลประจำปีเป็น 129 เยนต่อหุ้น จากเดิม 120 เยนต่อหุ้น

ปัจจัยเสี่ยงด้านนโยบายภาษีสหรัฐฯ และผลกระทบต่อราคา

ประเด็นสำคัญที่ Nintendo แสดงความกังวลคือ นโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐอเมริกา โดยคาดการณ์ผลประกอบการนี้ได้รวมผลกระทบเชิงลบจากอัตราภาษีที่บังคับใช้ ณ วันที่ 10 เมษายน 2568 ไว้แล้ว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านเยน ก่อนหน้านี้ Nintendo ได้เลื่อนกำหนดการเปิดรับสั่งจอง Nintendo Switch 2 ล่วงหน้าในสหรัฐฯ จากวันที่ 9 เมษายน เป็น 24 เมษายน เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบจากนโยบายภาษี (ที่อาจเกี่ยวข้องกับรัฐบาลทรัมป์) อย่างละเอียด โดยราคาวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ยังคงอยู่ที่ $449.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 64,000 เยน)

นาย Furukawa กล่าวว่า "โดยทั่วไปแล้ว ในการตัดสินใจเรื่องราคาขายในแต่ละประเทศหรือภูมิภาค ภาษีศุลกากรถือเป็นต้นทุนอย่างหนึ่งและจะถูกรวมเข้าไปในราคาขาย" แต่ในครั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการทำให้ฮาร์ดแวร์ Switch 2 เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วเป็นอันดับแรก "หากสมมติฐานเกี่ยวกับนโยบายภาษีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เราจะพิจารณาอย่างรอบด้านว่าจะมีการปรับราคาอย่างไร และจะดำเนินการเมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ แล้ว"

นอกจากนี้ เขายังแสดงความกังวลว่า หากมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมและจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาขาย อาจส่งผลให้อุปสงค์ในสหรัฐฯ ลดลง และผู้บริโภคอาจลดงบประมาณสำหรับการซื้อเกมลง หากราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารปรับตัวสูงขึ้น

ความต้องการ Nintendo Switch 2 สูง และแผนการผลิต

เป้าหมายการขาย Nintendo Switch 2 ที่ 15 ล้านเครื่องในปีงบประมาณแรกนั้น เทียบเท่ากับสถิติที่ Nintendo Switch รุ่นปัจจุบันทำได้ในช่วง 10 เดือนแรกหลังวางจำหน่าย ความนิยมของเครื่องรุ่นใหม่นี้เห็นได้ชัดจากการที่มีผู้สมัครเข้าร่วมการจับสลากเพื่อสั่งซื้อในประเทศญี่ปุ่นเพียงแห่งเดียวถึงประมาณ 2.2 ล้านคน ซึ่งนาย Furukawa ยอมรับว่าสินค้าในวันเปิดตัวอาจมีจำนวนจำกัดสำหรับผู้บริโภค "เราได้เสริมกำลังการผลิตแล้ว และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคโดยเร็วที่สุดหลังวันวางจำหน่าย" เขากล่าว

สำหรับ Nintendo Switch รุ่นปัจจุบัน คาดการณ์ยอดขายฮาร์ดแวร์สำหรับปีงบประมาณนี้อยู่ที่ 4.5 ล้านเครื่อง (ลดลง 58.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน) และซอฟต์แวร์ 105 ล้านชุด (ลดลง 32.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน) อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในการคาดการณ์คือ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 140 เยน และ 1 ยูโร เท่ากับ 155 เยน

สำหรับผลประกอบการปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2568 ที่เพิ่งผ่านไป กำไรจากการดำเนินงานรวมอยู่ที่ 2.825 แสนล้านเยน ลดลง 46.6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งใกล้เคียงกับที่บริษัทคาดการณ์ไว้ที่ 2.8 แสนล้านเยน

ที่มา TheGamer