บริษัท Capcom เพิ่งเปิดเผยผลประกอบการรวมสำหรับปีงบประมาณ 2024 (ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025) และผลลัพธ์ที่ออกมาถือว่าดีเยี่ยมอย่างยิ่ง โดยนับเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำมา
ในเอกสารแถลงข่าวที่เผยแพร่ประกอบกัน Capcom ระบุว่า บริษัทสามารถทำกำไรสุทธิประจำปีได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ติดต่อกันเป็นปีที่แปด โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 48.45 พันล้านเยน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 328 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกเหนือจากกำไรที่เป็นสถิติใหม่แล้ว Capcom ยังรายงานยอดขายเกมรวมทั้งหมด 51.87 ล้านชุด ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลของบริษัทอีกด้วย Capcom ให้เหตุผลของความสำเร็จในครั้งนี้ว่าเป็นผลมาจากผลการดำเนินงานอันยอดเยี่ยมของซีรีส์เกมเรือธงของบริษัท และได้ประกาศว่าเกม Monster Hunter Wilds สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 10 ล้านชุดภายในสิ้นปีงบประมาณ 31 มีนาคม 2025
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่เกม Monster Hunter Wilds เท่านั้นที่ช่วยเสริมสร้างยอดขายให้กับ Capcom ตามเอกสารประกอบการแถลงผลประกอบการปีงบประมาณ 2024 ระบุว่า เกม Monster Hunter: World สามารถทำยอดขายเพิ่มเติมได้อีก 3.1 ล้านชุดในช่วงปีงบประมาณดังกล่าว ในขณะที่ Monster Hunter: Rise ก็ทำยอดขายเพิ่มได้อีก 2.4 ล้านชุด ส่งผลให้โดยรวมแล้ว ปัจจุบันซีรีส์ Monster Hunter ทำยอดขายทั่วโลกสะสมได้มากกว่า 100 ล้านชุดแล้ว
นอกเหนือจากความสำเร็จของซีรีส์ล่ามอนสเตอร์แล้ว เกมในซีรีส์ Resident Evil จากภาครีเมกต่างๆ ก็สามารถทำยอดขายรวมได้มากกว่า 8 ล้านชุด ส่วนเกมซีรีส์ Street Fighter ก็มีผู้เล่นเข้าร่วมต่อสู้ ซึ่งอาจหมายถึงยอดขายหรือการมีส่วนร่วมที่สำคัญ มากกว่า 1.3 ล้านคน แม้แต่เกม Dragon's Dogma 2 ซึ่งผู้เล่นบางกลุ่มยกย่องว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยมระดับที่คู่ควรกับรางวัลเกมแห่งปี ก็สามารถทำยอดขายเพิ่มอีกหนึ่งล้านชุดให้กับยอดรวมประจำปีของ Capcom ได้เช่นกัน
เมื่อมองไปข้างหน้า Capcom ระบุว่าแผนการดำเนินงานในอนาคตอันใกล้นี้จะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มยอดขายจากกลุ่มเกมที่มีอยู่เดิมในตลาดซึ่งหมายถึงยอดขายจากเกมที่ได้วางจำหน่ายไปแล้วในปีงบประมาณก่อนหน้าหรือเก่ากว่านั้น สำหรับในปี 2025 นี้ คาดว่าจะยังคงมีการให้ความสำคัญกับการสนับสนุนเนื้อหาหลังวางจำหน่ายสำหรับเกม Monster Hunter Wilds อย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัวส่วนเสริมระดับ Master Rank ตามมาอย่างแน่นอนในอนาคต นอกจากนี้ เกม Onimusha 2 ในรูปแบบ Remaster ก็มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งน่าจะเข้ามาช่วยเสริมยอดขายได้อีกทางหนึ่ง
