Dead by Daylight โหมด 2v8 กลับมาแล้ว! เพิ่ม Killer ใหม่ The Ghost Face, The Oni พร้อมรายละเอียดการเล

แชร์เรื่องนี้:
Dead by Daylight โหมด 2v8 กลับมาแล้ว! เพิ่ม Killer ใหม่ The Ghost Face, The Oni พร้อมรายละเอียดการเล

โหมดปาร์ตี้ 2v8 อันเป็นที่เรียกร้องของเหล่าผู้เล่น Dead by Daylight ได้กลับมาอีกครั้งแล้ว โดยทาง Behaviour Interactive ผู้พัฒนา ได้ประกาศกำหนดการและรายละเอียดต่างๆ ของอีเวนต์พิเศษนี้ ซึ่งจะนำเสนอประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่และทวีความโกลาหลยิ่งกว่าเดิม

กำหนดการอีเวนต์ DBD 2v8 ครั้งใหม่: โหมด 2v8 ของ Dead by Daylight ได้เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม 2025 เวลา 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย และมีกำหนดจะสิ้นสุดลงในวันที่ 29 พฤษภาคม 2025

การกลับมาของโหมด 2v8 ในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่สามของ Modifier หรือโหมดปรับแต่งการเล่นพิเศษนี้ ได้รับการพัฒนาให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีการเพิ่มแผนที่และ Killer ใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

Killer ใหม่ที่เข้าร่วมโหมด 2v8: ในการกลับมาครั้งนี้ มี Killer ใหม่สองรายที่จะถูกปลดปล่อยเข้าสู่ความโกลาหลของโหมด 2v8 ได้แก่ The Ghost Face และ The Oni เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้เล่นจำนวนมากต่างตั้งตารอคอยการมาถึงของ The Ghost Face (ซึ่งเป็นตัวละครที่ไม่ได้อิงตามลิขสิทธิ์ภาพยนตร์โดยตรงในเกม) ในโหมด 2v8 มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ดังนั้นคาดว่าจะได้เห็นการเผชิญหน้าหรือการร่วมทีมกับ Killer สวมหน้ากากผู้นี้บ่อยครั้งอย่างแน่นอน

ไอเทมพิเศษ Fog Crystal กลับมาอีกครั้ง: ไอเทม Fog Crystal ซึ่งเป็นไอเทมพิเศษจากอีเวนต์ก่อนหน้า ได้กลับมาให้ผู้รอดชีวิตได้ใช้งานอีกครั้ง ไอเทมนี้สามารถพบได้ในหีบสมบัติ และเมื่อผู้รอดชีวิตโยนลงพื้น มันจะสร้างกลุ่มหมอกขึ้นมาชั่วขณะ บดบังทัศนวิสัยของทุกคนที่อยู่ภายในนั้น ทำให้ผู้รอดชีวิตสามารถใช้เป็นช่วงเวลาหลบหนีหรือหยุดพักชั่วครู่ได้

ของรางวัลจากอีเวนต์ DBD 2v8: การมาถึงของ Tome หรือบันทึกอีเวนต์ใหม่ หมายถึงของรางวัลใหม่ๆ และในครั้งนี้จะเป็นธีมของ The Ghost Face ผู้เล่นสามารถทำภารกิจท้าทายต่างๆ เพื่อรับ Banner, Badge และ Charm ลายน่ารักในธีม Ghost Face นอกจากนี้ยังมีชุดเครื่องแต่งกายใหม่ในกลุ่ม Guardians และ Shadows เปิดตัวพร้อมกับอีเวนต์นี้ รวมถึงสกิน Ghost Face Nevermore ด้วย

ประวัติการจัดอีเวนต์ DBD 2v8 ครั้งก่อนๆ

  • 10 กุมภาพันธ์ – 4 มีนาคม 2025 – Resident Evil 2v8
  • 12 – 26 พฤศจิกายน 2024
  • 25 กรกฎาคม – 15 สิงหาคม 2024
Resident Evil 2v8

 

โหมด DBD 2v8 คืออะไร และทำงานอย่างไร โหมด 2v8 เป็นหนึ่งในโหมดการเล่นพิเศษที่ Behaviour Interactive จัดขึ้นเป็นประจำเพื่อสร้างสีสันและความแปลกใหม่ให้กับเกม Multiplayer แบบอสมมาตรนี้ โดยเป็นการจับคู่ Killer สองคน ปะทะกับทีมผู้รอดชีวิตแปดคน ทำให้เกิดความโกลาหลอลหม่านอย่างยิ่ง

ก่อนจะลงลึกในรายละเอียดการเล่น มีข้อมูลใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปรับปรุงระบบ คือ ในช่วงอีเวนต์ 2v8 ครั้งก่อนๆ (หรือเริ่มตั้งแต่ 2024 ตามข้อมูล) คิวการรอเล่นในฝั่ง Killer อาจค่อนข้างยาวนาน ในการกลับมาครั้งนี้มีการเพิ่มฟีเจอร์เล่นระหว่างรอคิว ซึ่งจะช่วยให้ผู้เล่นที่เลือกเล่นเป็น Killer สามารถเข้าไปเล่นเป็น Survivor ในแมตช์ปกติระหว่างรอคิวได้

สำหรับฝั่งผู้รอดชีวิต

  • จำนวนผู้เล่นและเป้าหมาย: แตกต่างจากล็อบบี้ปกติที่มีผู้รอดชีวิต 4 คน ในโหมด 2v8 จะมีผู้รอดชีวิตถึง 8 คน ทำให้แผนที่ที่ใช้ในการเล่นมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก ในแผนที่ขนาดใหญ่นี้จะมีเครื่องปั่นไฟ ทั้งหมด 13 เครื่อง และผู้รอดชีวิตทั้งแปดคนจะต้องร่วมมือกันซ่อมแซมเครื่องปั่นไฟให้สำเร็จจำนวน 8 เครื่อง แม้ว่าจำนวนเครื่องปั่นไฟที่ต้องซ่อมเมื่อเทียบสัดส่วนแล้วจะน้อยกว่าในเกมปกติ แต่การประสานงานกันระหว่างผู้เล่นจำนวนมากอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายยิ่งขึ้น
  • การปิดใช้งาน Perk และระบบ Class: Perk ทั้งหมดจะถูกปิดใช้งานในโหมด 2v8 ผู้รอดชีวิตจะต้องเลือกเล่นหนึ่งในสี่ Class ที่กำหนดไว้แทน ซึ่งแต่ละ Class จะมีความสามารถเฉพาะตัว:
    • The Guide: เน้นการทำ Objective สามารถมองเห็น Aura ของเครื่องปั่นไฟที่อยู่ใกล้เคียง และมอบ Buff เพิ่มความเร็วในการซ่อมแซมให้กับเพื่อนร่วมทีมระหว่างการซ่อมแบบ Co-op
    • The Medic: สายรักษาโดยธรรมชาติ สามารถมองเห็น Aura ของผู้รอดชีวิตที่บาดเจ็บ และได้รับ Buff เพิ่มความเร็วในการรักษา
    • The Escapist: เหมาะสำหรับผู้เล่นที่เชี่ยวชาญการหลบหนีแบบตัวต่อตัว สามารถมองเห็น Aura ของหน้าต่างและแผ่นไม้, มอบ Buff เพิ่มความเร็วให้ผู้รอดชีวิตที่อยู่ใกล้เคียง และมีความสามารถ MFT (Make For This) ติดตัวมาตั้งแต่เริ่มเกม
    • The Scout: สามารถมองเห็น Aura ของ Killer เมื่อ Killer ทำลายแผ่นไม้หรือสร้างความเสียหายให้กับเครื่องปั่นไฟ เคลื่อนที่เร็วขึ้นขณะย่อตัว และมีความสามารถ Iron Will ติดตัวมาตั้งแต่เริ่มเกม
  • ข้อจำกัดของ Class: ในหนึ่งแมตช์ จะมีผู้เล่นที่เลือก Class เดียวกันได้ไม่เกิน 4 คน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ เช่น มี Medic ถึง 8 คนในทีม

สำหรับฝั่งฆาตกร

  • การปิดใช้งาน Perk และ Perk พิเศษ: เช่นเดียวกับผู้รอดชีวิต Killer ก็จะไม่สามารถนำ Perk ปกติเข้ามาใช้ในโหมดนี้ได้ แต่จะมี Perk พิเศษเฉพาะที่ช่วยเสริมพลังของ Killer ในสภาพแวดล้อมการเล่นเป็นทีมที่ไม่เคยมีมาก่อน ตัวอย่างเช่น The Nurse จะได้รับการเพิ่มจำนวนการ Blink อีกหนึ่งครั้งเมื่ออยู่ใกล้กับ Killer เพื่อนร่วมทีม ในขณะที่ The Trapper จะมีกับดักมากขึ้น โดยสามารถพกพากับดักได้สูงสุด 4 ชิ้น จากจำนวนกับดักทั้งหมด 12 ชิ้น
  • การเปลี่ยนระบบการแขวน: แทนที่จะเป็นการนำผู้รอดชีวิตไปแขวนบนตะขอ Killer จะทำการกระทืบผู้รอดชีวิตที่ล้มลง เพื่อส่งพวกเขาไปยังกรงที่อยู่ห่างไกล คล้ายกับความสามารถ Cage of Atonement ของ Pyramid Head ระบบนี้มีข้อดีสำหรับ Killer คือ ไม่มีการขัดขวางจากผู้รอดชีวิตคนอื่นและผู้รอดชีวิตที่ถูกจับก็ไม่สามารถดิ้นหลุดได้แต่ก็มีข้อเสียคือ Killer ไม่สามารถเลือกตำแหน่งของกรงได้ และจะต้องปล่อยผู้รอดชีวิตหากอุ้มพวกเขาขึ้นมาจากบริเวณช่องกระโดดหรือตู้ล็อกเกอร์
  • Perk ข้อมูลเสริม: Killer จะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมคือ เมื่อใดก็ตามที่เครื่องปั่นไฟถูกซ่อมแซมสำเร็จ Aura ของผู้รอดชีวิตทุกคนที่ยังไม่ได้ถูกจับเข้ากรงจะถูกเปิดเผยให้เห็น ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก Killer ไม่สามารถนำ Perk ที่ให้ข้อมูลใดๆ เข้ามาในโหมดนี้ได้
  • กลยุทธ์การเล่น: คำถามสำคัญสำหรับ Killer โดยเฉพาะผู้ที่เล่นคนเดียวคือจะร่วมมือกันหรือแยกกัน การผสมผสาน Perk และความสามารถเฉพาะตัวของ Killer ทั้งสองคน อาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างแรงกดดันและทำให้ผู้รอดชีวิตต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ

กลไกประตูทางออกในโหมด DBD 2v8: หาก Killer สามารถจัดการกับผู้รอดชีวิตส่วนใหญ่ได้สำเร็จ ประตูทางออกจะเริ่มเปิดออก ในเกมปกติ ประตูทางออกหนึ่งบานจะเปิดสำหรับผู้รอดชีวิตคนสุดท้าย แต่ในโหมด 2v8 จะมีประตูทางออกถึงสามบานเปิดขึ้นสำหรับผู้รอดชีวิตสองคนสุดท้ายที่เหลืออยู่

 

สถานการณ์นี้สามารถสร้างความสนุกและความตึงเครียดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจาก Killer สองคนอาจพบว่าเป็นการยากที่จะตามหาและเฝ้าประตูทางออกทั้งสามบานได้พร้อมกัน สำหรับผู้รอดชีวิต ก็ต้องตัดสินใจว่าจะหนีเอาตัวรอดคนเดียว หรือจะพยายามช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีมที่เหลืออยู่ด้วย สิ่งที่ผู้รอดชีวิตต้องทราบคือ ประตูทางออกแต่ละบานจะยังคงปิดลงหลังจากมีผู้เล่นคนหนึ่งหนีออกไปแล้ว ดังนั้นผู้รอดชีวิตสองคนจึงไม่สามารถใช้ประตูทางออกบานเดียวกันได้

ที่มา pcgamesn

แชร์เรื่องนี้:
Badeedooboy
Badeedooboy

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง