The Alters เกมแนวไซไฟเซอร์ไววัลที่เน้นการเล่าเรื่องซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับศูนย์วิจัยที่เต็มไปด้วยร่างโคลน กำลังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการนำคอนเทนต์ที่สร้างโดย AI มาใช้ในเกม ล่าสุดสตูดิโอผู้พัฒนาได้ออกมาปกป้องตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวว่าภาพหน้าจอที่กลายเป็นไวรัลนั้นเป็นเพียงเหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้น และไม่เคยตั้งใจจะให้มันอยู่ในเกมเวอร์ชั่นสุดท้าย
ตามรายงานจากเว็บไซต์ Kotaku ระบุว่า ข้อความที่เป็นประเด็นนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ในเกม ซึ่งถูกแชร์ครั้งแรกบน Reddit เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะได้รับความสนใจในวงกว้างบน Bluesky ในช่วงสุดสัปดาห์ โดยข้อความดังกล่าวมีประโยคที่ขึ้นต้นว่า "Sure, here’s a revised version focusing purely on scientific and astronomical data," (แน่นอน นี่คือเวอร์ชั่นแก้ไขที่เน้นเฉพาะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์) ซึ่งเป็นรูปแบบการตอบสนองที่ชัดเจนของโมเดลภาษาอย่าง ChatGPT
นอกจากนี้ยังมีภาพจากซับไตเติลภาษาโปรตุเกสของภาพยนตร์ในเกมที่แสดงให้เห็นถึงภาษาที่ตกค้างมาจากการใช้บริการแปลด้วยเครื่องจักรอย่างชัดเจน ทำให้ข้อกล่าวหาเริ่มแพร่กระจายออกไป
คำชี้แจงจาก 11 Bit Studios
เพื่อเป็นการชี้แจงสถานการณ์ 11 Bit Studios ได้โพสต์แถลงการณ์เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน "ในระหว่างการผลิต มีการใช้ข้อความที่สร้างโดย AI สำหรับแอสเซทกราฟิกชิ้นหนึ่ง ซึ่งตั้งใจให้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทกซ์เจอร์พื้นหลัง โดยนักออกแบบกราฟิกของเราได้ใช้มันเป็น Placeholder (ข้อความชั่วคราว)" บริษัทเขียน "สิ่งนี้ไม่เคยมีเจตนาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเกมเวอร์ชันสุดท้าย โชคร้ายที่เนื่องจากความผิดพลาดในการตรวจสอบภายใน ข้อความชั่วคราวชิ้นนี้จึงหลงเหลืออยู่ในเกมโดยไม่ได้ตั้งใจ"
สำหรับประเด็นซับไตเติลที่แปลด้วยเครื่องจักร พวกเขาชี้แจงว่ามีแผนที่จะแทนที่ด้วยฉบับที่แปลโดยมนุษย์หลังเกมวางจำหน่าย แต่ทำไม่ทันในช่วงเปิดตัวและไม่ต้องการที่จะให้ผู้เล่นที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษขาดข้อมูลบริบทที่สำคัญไป
เสียงวิจารณ์จากชุมชน
แม้จะมีการชี้แจงออกมา แต่ก็ยังไม่สามารถลดกระแสวิจารณ์ลงได้ "ทั้งหมดนี้อ่านดูแล้วเหมือนกับ 'เราเสียใจที่ถูกจับได้' มากกว่า" aurahack ศิลปินและนักวาดภาพประกอบเขียนบน Bluesky "เพราะไม่มีการยอมรับเลยว่าสิ่งนี้สร้างปัญหาในเชิงจริยธรรมหรือความคิดสร้างสรรค์อย่างไร ถ้าฉันรู้ว่ามันถูกใช้ที่นั่นโดยตั้งใจ ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ามันไม่ได้ถูกใช้ในส่วนที่เราไม่มีทางรู้ได้เลย"
ที่มา Kotaku