"Uma Musume" ตัวอย่างอันทรงพลังของโมเอะ-กิจินกะ
เมื่อกล่าวถึงเกมจากญี่ปุ่น ผมเชื่อว่าใครหลายคนคงต้องคุ้นเคยกับเกมที่ดัดเเปลงสิ่งต่าง ๆ ให้กลายเป็นสาวน้อยสุดโมเอะกันอย่างเเน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Kantai Collection เกมที่ดัดเเปลงเรือรบญี่ปุ่นให้กลายเป็นสาวเรือรบ ,Kemono Friends Kingdom เกมซึ่งเเปลงสิงสาราสัตว์ให้กลายเป็นสาวหูสัตว์ ,หรือเกมที่เราจะพูดถึงกันในบทความนี้อย่าง Uma Musume เกมซึ่งตีความประวัติม้าเเข่งใหม่ ในรูปเเบบของสาวม้าสุดน่ารัก (เเม้บางตัวจะเป็นตัวผู้ก็ตาม)
เเต่ทั้งนี้ มีใครเคยสงสัยกันบ้างไหมว่า 1.ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบเอาสิ่งต่าง ๆ มาทำเป็นตัวละครสุดโมเอะ (หรือศัพท์ที่มักใช้กันอย่าง โมเอะ-กิจินกะ ที่หมายถึงการเปลี่ยนสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ให้เป็นสาวโมเอะ) 2.อะไรที่ทำให้ “ม้าเเข่ง” เป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่เหมาะเเก่การดัดเเปลงเป็นโมเอะ เเละ 3.ทำไม “Uma Musume” ถึงเป็นตัวอย่างอันทรงพลังในการดัดเเปลงเกมจากประวัติศาสตร์จริง ? โดยในบทความนี้เราจะพาทุกคนไปสำรวจทั้งสามประเด็นนี้กัน
1.ทำไมคนญี่ปุ่นถึงชอบเอาสิ่งต่าง ๆ มาทำเป็นตัวละครสุดโมเอะ
เริ่มจากประเด็นเเรกก่อน นั่นคือ เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นชอบโมเอะ-กิจินกะ สำหรับเรื่องนี้ คุณ โอคาโมโตะ เคน อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านซับคัลเจอร์ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้มีเกม หรืออนิเมะเเบบนี้เยอะ นั่นก็เป็นเพราะ คนญี่ปุ่นมักเชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะสิ่งของ หรือสัตว์ ก็ล้วนมีจิตใจหรือมีวิญญาณไม่ต่างจากมนุษย์ ดังนั้นสำหรับชาวญี่ปุ่นเเล้ว การมีตัวละครสาวจากม้าที่มีอารมณ์ความรู้สึก หรือพูดได้เหมือนมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องเเปลกเเต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังช่วยขับเน้นให้พวกเขาอินไปกับเรื่องราวของม้าเเต่ละตัวได้มากขึ้นด้วย

2.อะไรที่ทำให้ “ม้าเเข่ง” เป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่เหมาะเเก่การดัดเเปลงเป็นโมเอะ
เเต่ทั้งนี้ เเม้ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นจะมีหลายสิ่งที่หยิบมาทำเป็นสาวโมเอะได้ เเต่ทำไม “ม้าเเข่ง” ถึงเป็นสุดยอดวัตถุดิบที่เหมาะเเก่การทำเป็นโมเอะเป็นพิเศษละ สำหรับคำถามนี้ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ได้ลองเล่นเกม หรือดูอนิเมะ “Uma Musume” มาน่าจะสัมผัสได้เหมือนกันกับผม
อย่างเเรกเลยคือ “ม้าเเข่ง” นั้นไม่เพียงเเต่จะมีประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งเท่านั้น เเต่มันยังเต็มไปด้วยเรื่องราวสุดสะเทือนใจ ที่มอบเเรงบันดาลใจอันน่าทึ่งให้กับเรา ยกตัวอย่างเช่น เรื่องราวของ โทไก เทโอ ม้าเเห่งปาฏิหาริย์ ผู้เเม้จะบาดเจ็บอยู่หลายครั้ง เเต่ยังกลับมาเเข่งได้เสมอ หรือเรื่องราวของ ไรซ์ ชาวเวอร์ ม้าที่เเม้ตัวเองจะบาดเจ็บ เเต่ก็ยังพยายามปกป้องจ๊อกกี๊ของมัน (จริง ๆ ยังม้ามีอีกหลายตัวที่มีประวัติน่าประทับใจไม่เเพ้กัน เช่น ไซเรน ซุซุกะ , ฮารุ อุราระ หรือ สเปเชี่ยล วีค เป็นต้น)
ไม่เพียงเเต่เรื่องราวที่น่าประทับใจเท่านั้น “การเเข่งม้า” ยังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้มันเหมาะเเก่การทำเป็นเกมหรืออนิเมะด้วย เพราะ การเเข่งม้า มิได้วัดกันที่ความเร็วเเต่เพียงอย่างเดียว เเต่ประกอบด้วยตัวเเปรมหาศาลที่ทำให้เกมมีความลึกอย่างยิ่งยวด ไม่ว่าจะเป็น เทรนเนอร์ ลักษณะของม้า สไตล์การวิ่ง สภาพอากาศ ระยะทาง สายเลือด ทั้งหมดนี้ล้วนทำให้เกมมีอะไรให้ศึกษามากมาย จนสร้างความเป็นไปได้ที่ไม่รู้จบให้กับตัวเกม
ยิ่งไปกว่านั้น ม้าเเข่งโดยเฉลี่ยยังมีช่วงเวลาเเข่งในสนามค่อนข้างสั้น (ไม่เกิน 5 ปี) ซึ่งนั่นหมายความว่า ตัวเกมหรืออนิเมะสามารถเลือกเล่าเเค่ ช่วงเวลาอันน่าจดจำของม้าตัวนั้น ๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเล่าชีวิตของม้าทั้งหมด เเละที่สำคัญ คนที่เกี่ยวข้องกับม้าเเข่งก็ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นทีมงานจึงสามารถขออนุญาตเจ้าของม้า เเละขอคำเเนะนำในการดัดเเปลงม้าเเต่ละตัวได้ ซึ่งจะต่างจากกรณีของเกม KanColle ที่จะเจอปัญหาในเรื่องนี้มากกว่า

3.ทำไม “Uma Musume” ถึงเป็นตัวอย่างอันทรงพลังในการดัดเเปลงเกมจากประวัติศาสตร์จริง ?
เเละนี่เองคือปัจจัยที่ทำให้ “ม้าเเข่ง” เป็นสุดยอดวัตถุดิบสำหรับการโมเอะ-กิจินกะ อย่างไรก็ตาม เเม้จะมีวัตถุดิบชัันยอด เเต่มันก็มิได้หมายความว่า เกมจะต้องดีด้วยเสมอไป เพราะอย่าลืมว่า วัตถุดิบที่ดีย่อมเสียของเปล่า หากปรุงอย่างลวก ๆ เเต่สำหรับเกมนี้ ผมต้องยอมรับว่า มันคือเกมที่นำมาปรุงได้อย่างพิธีพิถัน เเละเป็นตัวอย่างสำหรับการทำ โมเอะ-กิจินกะ เลยก็ว่าได้
โดยเราจะเห็นความพิธีพิถันเช่นนี้ ผ่านการออกเเบบตัวละคร ที่ไม่เพียงเอาชื่อ หรือรูปลักษณ์ภายนอกมาทำเป็นสาวม้าเฉย ๆ เเต่ทีมงานกลับพยายามนำนิสัย สไตล์การวิ่ง เเละประวัติการเเข่งใส่เข้ามาด้วย จนเเทบเรียกได้ว่า ถอดเเบบมาจากม้าจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของเนื้อเรื่อง เเม้จะไม่ได้เหมือนกับประวัติจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ เเต่ทีมงานกลับนำเรื่องจริงมาดัดเเปลงได้อย่างชาญฉลาด โดยยังคงผลการเเข่งขันนัดสำคัญไว้ เเต่ปรับเซตติ้งโลกใหม่ ให้เป็นโลกคู่ขนานที่ม้าทุกตัวสามารถมาเเข่งกันได้ เเละยังเป็นโลกที่ม้าบางตัว ไม่ต้องพบกับจุดจบอันน่าเศร้าเหมือนกับในชีวิตจริงด้วย

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ “Uma Musume” จึงมิใช่เพียงเเค่เกมม้าน่ารัก ๆ เเต่เป็นผลงานในอุดมคติของการตีความประวัติศาสตร์ใหม่ การตีความที่ไม่เพียงเเต่จะทำให้เกมมีเนื้อหาสุดเข้มข้น เเต่เป็นการพลิกฟื้นประวัติศาสตร์ หรือเปลี่ยนเรื่องเล่าเก่า ๆ ให้กลับมามีชีวิตในหัวใจผู้คนอีกครั้ง ซึ่งจะเห็นได้จาก กระเเสตอบรับของเกมนี้ ที่เราจะเห็นเหล่าเเฟนเกมต่างพยายามวิเคราะห์ หรือศึกษาประวัติม้าอย่างละเอียด จนบางคนถึงกับเดินทางไปเยี่ยมเยือนม้าเหล่านี้เลยก็มี
อ้างอิง : kindaipicks.com
Azuma, Hiroki; Abel, Jonathan E.; Kōno, Shion (2009). Otaku: Japan's database animals. Minneapolis, Minn.: Univ. of Minnesota Press. ISBN 978-0-8166-5352-2.