Dune: Awakening เกม Survival Multiplayer ด้วยขุมพลัง Unreal Engine 5 จากทีมพัฒนา Funcom แห่งประเทศนอร์เวย์ ที่หลังจากเปิดให้เล่นในวันที่ 10 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมาและเตรียมจะอัปเดต Chapter 2 แบบฟรีๆในเร็วๆนี้ ล่าสุดในงาน gamescom 2025 ผมได้มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์กับหนึ่งในผู้พัฒนาอย่างคุณ Nils Ryborg ตำแหน่ง Producer ของเกมนี้ และด้วยเหตุผลอันใดไม่ทราบจู่ๆคุณ Ole Andreas Haley ที่เป็นตำแหน่ง Lead Producer ของเกมนี้ก็เดินเข้ามานั่งคุยด้วยเฉยเลย จึงได้เป็นการสัมภาษณ์ทั้งสองคนไปในที่สุดครับ
Gamer Inside : ในยุคที่ตลาดเกม MMO แนวเอาชีวิตรอดมีการแข่งขันสูงมาก อยากรู้ว่าทาง Funcom มีวิสัยทัศน์ยังไงที่ทำให้ Dune: Awakening แตกต่างจากเกมอื่น ๆ ในยุคปัจจุบัน
มันขึ้นอยู่กับว่า เกมอื่นๆ เป็นอย่างไร ในขณะที่ ในตลาดก็มีเกม MMO อยู่มากมาย กลับกัน Dune กลับเป็นเกมที่มีกลการเล่น ที่มีเอกลักษณ์ ถ้าเปรียบเทียบง่ายก็อย่างพวกเกม เอาตัวรอด (Survival) ซึ่งเอาเข้าจริงๆ MMO กับเกมเอาตัวรอด พอเอามารวมกัน มันก็พิลึกอยู่แล้ว ผมคิดว่าสิ่งที่ สร้างความต่างออกมาคือ บ้าน(House) อย่างเช่น บ้านของพรรคพวกที่หนึ่ง จะมีความสามารถในการเอาตัวรอดสูง อะไรพวกนี้ ทีนี้ สิ่งที่พวกเราได้ลงมือทำไปแล้วคือเกม Anarchy (Online) ถูกไหม? สิ่งที่พวกเราจะทำต่อไป คือการทำเกม Anarchy โดยอิงจากภาพยนต์และหนังสือขึ้นมา และผมคิดว่า ถ้าคุณเป็ฯแฟนคลับตัวยงของ Dune แล้ว ผมคิดว่านี้ จะเป็นประสบการณ์ที่คุณมองหา พวกเราจริงจังมาก ในการทำให้มันเป็นประสบการณ์แบบ Dune ให้ได้มากที่สุด ต่อมา จะเป็นเรื่องของแก่นของเกม แต่แก่นเกมเอาตัวรอดเกมนี้ ไม่ใช่อาหาร เพราะอาหารไม่ใช่ปัจจัยหลัก ของจักรวาล Dune แต่มันเป็นสิ่งที่เรียกว่าน้ำครับ อย่างเช่น คุณเริ่มต้นเล่นเกม คุณอยู่บนดาวเคราะห์ ที่หาน้ำลำบากมากที่สุด ในกาแลคซีนี้ นั่นก็คือ Arrakis และคุณต้องอยู่ที่นั่น คนเดียว กระเสือกกระสนเอาตัวรอด
สิ่งที่เป็นภัยที่สุดสำหรับคุณ คือการเสียชีวิต จากการขาดน้ำ แถมมีแสงตะวัน คอยแผดเผาคุณเรื่อยๆ และคุณต้องคอยหาเงาเพื่อพักซักหน่อย หรือไม่ก็ เคลื่อนที่ไปตามเนินทราบเวลากลางคืนมาถึง และวิธี ที่จะได้น้ำมาใช้งานเนี้ย น่าขยะแขยงหน่อย ตรงที่ คุณต้องฆ่าผู้เล่นคนอื่น เพื่อเอาสาร น้ำ และความชุ่มชื้นในตัวพวกเขามาเป็นของตัวเอง นี่กลายเป็นเสาหลักสำคัญของเกมและเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่ใน Dune ด้วย แล้วทีนี้ ลูปเกมเพลย์ของคุณในช่วงแรก คือการเอาตัวรอด อย่างเดียวเราพยายาม จะให้ความรู้สึกแบบนั้น สำหรับต้นเกม ดังนั้น สื่งที่ทำให้เกมนี้เป็นเอกลักษณ์ คือความเป็น Dune แบบนี้นี่แหละ ที่พยามจะถ่ายทอด ความต้นฉบับของมัน และมันจะทำให้ การเล่นและการก้าวหน้าไปตามเกม รู้สึก ตื่นเต้นและสนุกมากขึ้น

Gamer Inside : ผมคิดว่ามันเป็นเกมที่เล่นกับสภาพแวดล้อมด้วยนะ
แน่นอนครับ เล่นกับมันได้แน่ เราพยายามที่จะสร้าง ให้ Arakis ตรงกับตามที่ประพันธ์เอาไว้ และอยากให้มันเป็น Arakis ที่เติมเต็มช่องว่าง ในจุดที่หนังสือไม่ได้พูดถึง ก็แบบว่า นี่คือทะเลทราย ขนาดมหึมาและไร้รอยต่อ จนขนาดที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็อยากให้มีจุดดึงดูด จุดสนใจ โดยยังคงเอกลักษณ์ดั่งเดิม ของตัวเองเอาไว้อยู่ อย่างเช่น ถ้ามีฐานของตัวเองอยู่ทางใต้ หรือสถานที่สำคัญ ในบริเวณนั้น คุณจะได้สัมผัสกับวิว ทิวทัศน์ และได้สำรวจ จนชวนให้คิดต่อว่า Arakis จะเป็นอย่างไรถ้าทอดแบบมาจากหนังสือ พร้อมกับอิ่มหนำไปกับรายละเอียด ที่เราใส่ลงไป หรือมีจุดให้คิดต่อว่า ถ้า Frank Herbert ได้มาลงสร้าง พื้นที่ตรงนี้ เขาจะใส่ลูกเล่น หรือรายละเอียด อะไรไหม
Gamer Inside : ทำไมถึงสนใจนำ Dune นวนิยายชื่อดังของ Frank Herbert ที่เน้นปรัชญาเป็นหลัก มาสร้างเป็นเกมเอาชีวิตรอด
ผมคิดว่า ตัวตนและโลกของ Dune เหมาะเจาะในการเป็นเกม เอาชีวิต ซึ่งมันชัดเจนมาก ถ้าหากคุณได้มีโอกาส ได้สัมผัสหนังสือของ Frank Herbert นั้น คุณจะสัมผัสได้ถึงความเป็น “วิดีโอเกม” มันจะมีปมของความต้องการที่จะแข็งแกร่ง อยากที่จะมั่นใจขึ้น เป็นหนึ่งในจักรวาลมากขึ้น วิธีที่ Herbert มอบการเติบโตให้กับตัวละครนั้น คือหยิบยื่นความเจ็บปวด มอบความทรมานทรกรรม ให้กับตัวละคร ที่เขาจะเขียนมันขึ้นมา พอเวลาผ่านไป ตัวละครก็จะแกร่งขึ้น ตัวอย่างก็มีอย่าง นักรบ Sardaukar จะเก่งจะแกร่งแบบนั้น ก็ต้องผ่านการฝึกที่หฤโหด แล้วทีหนึ่ง พรรคพวกที่เก่งกาจพอที่จะประจัณหน้ากับ Sardaukar แถมยังเอาชีวิตรอดได้บน Arakis ดวงดาวที่ไร้ทางรอดที่สุดในกาแล็คซี่ ก็คือพวก Fremen ถ้าคุณจะพูดถึง เกมการเอาตัวรอด ผมมักจะชอบเกมแนวที่เน้นให้ผุ้เล่น กลายเป็นแรงนำหน้ากลุ่มที่ทรงพลัง แล้วถ้ามองมาที่ตัวของเกมนี้ มันคือเกมที่สร้างบนท้องเรื่องโลกที่เอาตัวรอดได้ยากที่สุด มัน(Dune)คือจักรวาลที่เหมาะสมที่สุดเลยใช่ไหมล่ะ? ถูกเผงเลย เท่านั้นยังไม่พอ เกมยังมีแง่มุมของ การเมือง, ปรัชญา, ศาสนาให้สัมผัสกันอีก พอมันมาตกผลึก อยู่ในบรรทัดเดียวกัน นี่จึงเป็นโครงสร้างของเกมเอาตัวรอด ที่เรามองว่า เหมาะเหม็ง และย่อนพวกเขา ไปในโลกของ Arakis ในรูปแบบ Sandbox ที่เหลือพวกเขา ก็จะเล่นสนุกกันเอง
Gamer Inside : เล่นได้กับทุกอย่างเลยใช่ไหม?
ใช่ครับ และในขณะเดียวกัน เกมมันก็จะให้ผู้เล่น ลองผลิตของใหม่ๆ และนวัตกรรมแปลกๆ ของผู้เล่นเองด้วย อย่างเช่นการสำรวจโลกทั้งใบ โดยให้ตัวละคร เติบโตไปกับการค้นพบใหม่ๆไปด้วย มันเลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมพวกเรา จึงสร้างเนื้อเรื่องขนาดใหญ่ ที่ให้ไหลไปกับเกม พร้อมกับปมเรื่องย่อยๆ เพื่อไปเจอกับเหล่าผู้สอน หรือครูจากบ้านอื่นๆ หรือเรื่องราวของฝักฝ่าย ที่หมายจะทรยศไม่ก็มีปมขัดแย้งหยั่งลึก ผมรู้สึกว่า มันเป็นเนื้อเดียวดีมากเลย เพราะนอกจากจะได้สำรวจความทารุณของ Arakis แล้ว และยังได้สัมผัสกับการจำลองสังคมสุดเฉียบคมบนดาวแห่งนั้น ความไว้ใจเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้น จากความเป็นตัวเองและมันรู้สึกธรรมชาติมากกว่า เอาจริงๆ ผมสามารถ พูดได้อีกเยอะเลยนะ (หัวเราะ)

Gamer Inside : การพัฒนา Conan Exiles ที่เป็นผลงานเก่า กับ Dune: Awakening ผลงานใหม่ล่าสุด มีความอยากง่ายต่างกันตรงไหน และทีมงานได้เรียนรู้อะไรบ้าง ?
นั่นเป็นคำถามที่ใช้ได้เลย ผมได้รับหน้าที่ ในเรื่องของโปรดิวเซอร์ และการตัดสินใจด้านงานศิลป์ มันไม่ใช่งานหมูๆเลย ซึ่งสำหรับ Dune มันช่วยให้งาน ง่ายขึ้นมาก มันช่วยให้เราเข้าใจแก่นสกัดของการ “เป็นเกมเอาตัวรอด” ซึ่งงานของ Conan Exiles นั้น เปิดประสบการณ์ให้กับผมเยอะมาก ผมพยายามม จะลองหยิบจับความดีงามจาก Conan Exiles มาใส่ให้กับ Dune โดยให้เอกลักษณ์ของจักรวาล Dune นั้น ยังคงเฉิดฉาย
ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของ เรียนรู้อะไรมาบ้าง ตามที่กล่าวไป ผมทำงานเกี่ยวกับการเล่าเรื่องด้วยงานศิลป์ ในเกม Conan Exiles สิ่งที่ได้ซึมซับมานั้น คือการยกระดับของเรื่องราวที่จะเล่า กระนั้น ที่ชัดเจนกว่าเนี่ย ใน Dune ผมรับหน้าที่ ในการเล่าเรื่องของ Dune มากกว่าใน Conan เพราะว่าในเกมก่อนหน้านั้น ผู้เล่นจะต้อง อ่านรายละเอียด คำอธิบายว่า ไอเทมชิ้นนั้นๆ ใช้งานยังไง เพื่อที่จะรู้ว่า เรื่องราวในจักรวาลนี้ เป็นมาอย่างไร หรือผมอาจจะใช้คำว่า เรื่องราวมันซ่อนในไอเทม ต้องไปตามอ่าน ถึงจะเข้าใจ
ใน Dune คราวนี้ เราอยากที่จะทำให้มัน(เนื้อเรื่อง) สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น อยากให้มันเนื้อมวลใหญ่ของเกมจนผู้เล่นได้ไปสัมผัสมันเอง และคราวนี้เอง เราใช้โทนที่แข็งกร้าวมากขึ้น ไปกับการเล่าเนื้อเรื่องของ Dune ส่วนเรื่องของ กลไกเกมนั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะมีอะไรที่อยากเปรียบเทียบไหม เช่น เรื่องของลูปเกมเพลย์ที่เราอาจจะได้เจอมาก่อนในจุดนี้ ขอให้ผมได้อธิบาย ซักเล็กน้อยนะครับ เราได้หยิบระบบเล็กๆน้อยๆ จาก Conan Exiles มาใส่ในเกม ออกแบบใหม่หมด และขยายสเกลมันออกมา ดังนั้น มันจะมีการที่พวกเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากการโละเครื่องและออกแบบใหม่ครั้งนี้ และเพิ่มเติมจากข้อนั้น เราได้เรียนรู้ด้าน ทำเกมสไตล์ Game as service (เกมเป็นเหมือนบริการ) เพราะครั้งตั้งแต่เกมนี้ ออกสู่สาธารณะ พวกเราก็ได้ลองเล่นเอง จนได้เจอกับความท้าทาย ในแง่ของเกมที่ให้บริการแบบปัจจุบันทันด่วน, ความเห็นจากผู้เล่น, การอัพเดทที่เหมาะสม จนของพวกนี้ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเกม จุดนี้นี่เอง ที่เราได้ประสบการกับเกมที่เป็นบริการ มากขึ้น
น่าขบคิดต่อ ตรงที่ เมื่อสักครู่นั้น ได้พูดถึง ระบบที่เราเอามาในเกม Dune ไปแล้วนั้น จุดที่ผมมชอบที่สุดนั้น คือระบบ การสร้างสิ่งปลูกสร้างที่ได้เรียนรู้มานั้น เราทำมัน ใน Dune เป็นเกมแรก แล้วหลังจากนั้นก็ค่อย พอร์ทระบบปลูกสร้างนี่แหละ ไปใส่ Conan Exiles ทีหลัง พวกเราก็เลย ได้เรียนรู้ว่า มันจะออกมาเป็นยังไงบ้าง และพอมันผ่านการใช้งานจริง เราก็ค่อยพอร์ทระบบสิ่งปลูกสร้างจาก Conan มาใส่ Dune อีกที
Gamer Inside : มันคือการ Test on Product ใช่ไหม
ถูกต้องครับ ทั้งสองเกม ก็ได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน มันก็เลยสนุกหน่อย แถมทั้งสองเกม ก็เป็นเกมแนวเดียวกัน และได้เห็นว่า ผู้เล่นจะเล่นมันยังไง ใน Conan เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว ก็เลยรู้ว่า ผู้เล่น ชอบหรือไม่ชอบอะไร

Gamer Inside : คำถามต่อไปนะครับ ในแง่ของ Community และ Live Service ทาง Funcom มีแผนจะเชื่อมต่อกับผู้เล่นอย่างไร? เช่น เนื้อหา Seasonal หรือระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโลกของเกม? ตัวอย่างเช่น การเมืองในแต่ละเซิฟเวอร์ ทำนองนี้
พวกเรากำลังพัฒนาบางอย่าง เพื่อมารองรับกับปัจจัยตรงนี้ มาที่เรื่องของการทำให้เกมมันสดใหม่กันก่อน อันนี้ แน่นอนว่า เราจะได้ใส่ของเล่นใหม่ๆ เข้าไปในแต่ละแพทช์แน่นอน เราก็จะทำการเพิ่มเนื้อเรื่องใหม่เข้าด้วย ถ้าเวลามาถึง(ใน Chapter 2) ถ้าคุณคุ้นเคยกับการเล่นเกม Live Service ก็มีอะไรมารองรับอยู่แล้ว ในรูปแบบนั้นนั่นแหละ แบบว่าทิ้งไว้ให้ตั้งคำถามว่า แพทช์หน้าจะมีอะไรมาให้ติดตามกันนะ ส่วนคำถามต่อมาก็คือเชื่อมต่อกับผู้เล่นนี่แหละ เราจะให้ผู้เล่นตั้งคำถาม เกี่ยวกับตัวตนของตัวละครผู้เล่นเอง เพราะผู้เล่นจะได้พบเจอกับ ตัวละคร canon (ตัวละครที่ปรากฏในท้องเรื่อง) ซึ่งผมคิดว่า มันน่าตื่นเต้นไม่น้อย ทีนี้ ในแง่ของตัวเกม ด้วยการที่ว่าจะขยายสเกลออกไปอย่างไรนั้น ก็จะเริ่มต้นจากขยาย ของใช้งาน ที่มีอยู่แล้ว ออกไป รวมถึง เครื่องป้องกัน เครื่องแต่งกาย แล้วก็จะเพิ่มตัวละคร เพิ่มงาน รายชื่อติดต่อ มีแผนจะทำ Social Hub และแน่นอน DLC พร้อมกันนี้ ก็จะมีสถานที่พิเศษๆ ใส่เข้ามา ควบคู่ไปกับเนื้อเรื่อง มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ และมียานพาหนะใหม่ๆ และอีกมากมาย
ในเรื่องของ สิ่งที่สามารถคาดหวังได้นั้น คือลูปของเกมที่ดีขึ้น สดใหม่ รวมไปถึง ปรับปรุงระดับเกม ให้เข้ามือผู้เล่น อย่างต่อเนื่องครับ พวกเรานั้น มีความทะเยอทะยานสำหรับตัวเกม แต่ทั้งหมดนั้น จะต้องผ่านการทดสอบและทดลอง โดยชุมชน ผู้เล่น ดังนั้น คาดหวังได้เลยว่า มันจะมาอย่างต่อเนื่องและผ่านเสียงของผู้เล่นด้วยเงื่อนไขง่ายๆเลยคือ ผู้เล่นจะพอใจกับของใหม่ๆที่จะเข้ามาอย่างไร มากน้อยแค่ไหน และจะให้แน่ใจได้อย่างไรว่า ของใหม่ที่ใส่เข้ามาจะดีขึ้นไปอีกขั้น
Gamer Inside : นอกเหนือจาก Arrakis จะมีโอกาสได้เห็นคอนเทนต์ที่เชื่อมโยงไปยังดาวเคราะห์อื่น ๆ หรือเหตุการณ์ในจักรวาล Dune หรือไม่ ?
มีโอกาสครับ พวกเราได้ยืนยันไปแล้วในหลายๆการให้ข้อมูลครับ จะเปิดเผยถ้าถึงเวลาสมควร จริงๆ ก็ยืนยันที่ว่า ก็แปลวว่าอาจจะขอแหย่ๆหน่อยก็แล้วกันครับ (หัวเราะ) โอเค ทุกท่านสามารถรอดูดาวอื่นๆ นอกเหนือจาก Arakis ในจักรวาลของเกมในอนาคตได้เลยครับ อาจจะใช้เวลาไม่กี่ปีครับ

Gamer Inside : อยากถามว่าในมุมของทีมพัฒนา Dune: Awakening เป็นเกมที่เหมาะกับคนที่ไม่เคยรู้จัก Dune มาก่อนไหม หรือเป็นเกมที่ตั้งใจทำออกมาเพื่อแฟน ๆ ของ Dune โดยเฉพาะ
คำถามดีอีกแล้วล่ะสิ ในมุมมองของเรา ที่ได้สร้างโลกทั้งใบของเกมนี้ ที่ได้มาสัมผัสเนี้ย คาดหวังว่า ให้ผู้ที่มาเล่นเกมนี้ ไม่ได้รู้เรื่องราวของ Dune มาก่อน วิธีการที่เราจะนำเสนอตัวเกมนี้ คือให้ผู้เล่นไปเจอโลกด้วยตัวเองดีกว่า แล้วถ้าเกิดอาการซับซ้อนก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ ก็ควรจะสับสนแหละ แต่จากนั้นแหละ คุณจะค่อยๆได้เรียนรู้จากมันไปเอง คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ องค์ประกอบทุกอย่างของโครงสร้างทั้งหมดนี้หรอก เพราะ Dune นั้นมีการเริ่มจักรวาลที่หนักหน่วงมาก เช่นท้องเรื่องของพวก Bene Gesserit เอย ปมของการหายตัวไปของชาว Fremen เอย คุณต้องไปเรียนรู้เรื่องราวด้วยตัวเอง หรือแม้แต่ปมของพวก Sardaukar มันมีท้องเรื่องภายในอีกเยอะแยะ และถ้าเป็นผู้เล่นมาใหม่ๆ เจออะไรพวกนี้ มีงง ก็ไม่แปลกครับ มันเป็นเรื่องโอเค คุณไม่ต้องเข้าใจมันรวดเดียวหรอก คุณจะเรียนรู้จากพวกมัน ด้วยการเล่นเนื้อเรื่องเอย การทำเควส การสอบถาม ผู้เล่นจริงๆ เกี่ยวเรื่องสัพเพเหระ ผู้เล่นกันเองก็จะอธิบายให้นั่นแหละ
ผู้เล่นมักจะเข้าใจง่ายกว่า ถ้ามีการอธิบายกันเอง ในหมู่ผู้เล่น พวกเรามองอย่างชัดเจนเลยว่า ถ้าทุกท่านยังไม่เคยรับรู้ เรื่องราวของ Dune มาเล่นเกมนี้ได้เลยครับ มันจะเป็นประสบการณืในการเล่าเรื่อง ที่แนบชิดกับผู้เล่น ไม่ว่าจะมีองค์ความรู้ของจักรวาลหรือไม่ก็ตาม ถ้าตรงไหน มันมีท้องเรื่องที่มันแน่นไปหน่อย พวกเราจะอธิบายเอง เราสัญญาครับ แต่มันจะไม่ใช่ลักษณะที่ว่า “ปาเนื้อเรื่องใส่ผู้-เล่นอย่างเดียว” ดังนั้น มาลองเล่นได้เลยครับ
Gamer Inside : ถ้าเป็นเช่นนี้ ผมขอพูดในฐานะตัวผมเองนี่แหละ ผมไม่เคยอ่าน Dune มาก่อน ไม่เคยดูภาพยนต์ด้วยซ้ำ ผมจะเข้าใจท้องเรื่องของ Dune ซักเล็กน้อยได้ไหม
แน่นอนครับ ถ้าเล่นไปเรื่อยๆนะ พูดได้แค่ว่า ไม่เล่นแค่ 5 นาทีรู้เรื่อง ต้องเล่นเรื่อยๆครับ อย่างเช่นในต้นเกม จะมีกาารเล่าเรื่องที่หนักมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเราไม่เอาพวกท้องเรื่องทั้งหมดที่ปรากฏในฉาก มาใส่พานทีเดียว ใส่มันเกิดขึ้น เมื่อเล่นไปได้ซักพัก ได้สำรวจโลก ได้เจอกับผู้คน นั่นแหละ จะได้สัมผัสกับเวทมนต์ของมัน
Gamer Inside : สุดท้ายอยากให้เล่าหน่อยว่า ทีมงานมอง Dune: Awakening เป็นเพียงเกม MMO เอาชีวิตรอดหนึ่งเกม หรือวางเป้าหมายให้มันกลายเป็นเกมหลักของแฟรนไชส์ Dune ที่จะอยู่กับผู้เล่นไปอีกยาวนาน ?
ด้วยความสัจจริง อยากให้ผู้เล่น ได้เล่นเกมนี้ยาวๆเลยครับ เรามีแผนในการพัฒนา นานหลายปีเลย ในหัวพวกเรา จะมีโจทย์ในเรื่องของ พื้นที่ให้สำรวจ มีปัจจัยให้มีส่วนร่วมกับเกมในระยะยาวด้วย เราจึงอยากให้เป็นเกม Dune ที่อยู่กับผู้เล่นได้ยาวนาน ซึ่งผมเอง ก็ไม่เก่งเจ๋งพอจะการะตีความอยู่ยง หลังโก่งค้ำฟ้าของเกมหรอกครับ (หัวเราะ) เอาจริงๆนะ เราอยากให้ผู้คน ถ้าหากพูดถึง Dune เป็นสิ่งแรกๆ ที่แวบเข้ามาในหัวและอยู่คู่กับเกม หรือภาพยนต์ นั่นแหละครับ เป้าหมายของเรา เป็นสิ่งที่ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นได้