ทีมผู้พัฒนา Mafia: The Old Country จากสตูดิโอ Hangar 13 ได้ออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังการพัฒนาเกมภาคย้อนอดีตล่าสุด โดยยืนยันว่าพวกเขาไม่สามารถเล่าเรื่องราวต้นกำเนิดของมาเฟียได้อย่างสมจริง หากปราศจากการพูดถึงประเด็นทางการเมือง, ความขัดแย้งทางชนชั้น และปัญหาแรงงาน
เว็บไซต์ Polygon รายงานว่า ในบทสัมภาษณ์ล่าสุด Alex Cox ผู้กำกับเกม และ Steve Noake อาร์ตไดเรกเตอร์ ได้อธิบายว่าเป้าหมายของภาคนี้คือการแสดงให้เห็นถึงบริบท และความรู้สึกว่าทำไมองค์กรอาชญากรรมในลักษณะนี้ถึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาในซิซิลีช่วงปี 1900
"มันไม่ใช่ว่าเราพยายามจะเล่าเรื่องของมาเฟียคนแรกอะไรแบบนั้น" Cox กล่าว "แต่เพื่อแสดงให้เห็นบริบทว่าทำไมอาชญากรรมรูปแบบนี้ถึงได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่แรก"

Cox อธิบายว่ารากเหง้าของมาเฟียในซิซิลีนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงกับ "ความเหลื่อมล้ำอย่างมหาศาลระหว่างชนชั้นแรงงานและชนชั้นสูงที่เป็นเจ้าของที่ดิน" โดยมาเฟียได้ถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะ "คนกลาง" ที่ถูกเจ้าของที่ดินจ้างมาเพื่อจัดการผลประโยชน์ ก่อนที่จะเริ่มขูดรีดทั้งชนชั้นแรงงานและขูดรีดเจ้าของที่ดินเสียเองในภายหลัง
"ประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง คือส่วนหนึ่งของเรื่องราวต้นกำเนิดมาเฟียอย่างแท้จริง" Cox ย้ำ

บริบททางประวัติศาสตร์และสังคมนี้ได้นำไปสู่การสร้างตัวเอกอย่าง Enzo Favara เด็กกำพร้าที่ต้องทำงานอย่างหนักในเหมืองแร่ภายใต้เจ้านายที่กดขี่ ซึ่งทีมงานตั้งใจใช้เวลาปูพื้นเรื่องราวเพื่อให้ผู้เล่นเข้าใจว่า ทำไมคนธรรมดาในยุคนั้นถึงอาจถูกดึงดูดเข้าสู่โลกอาชญากรรม
Steve Noake อาร์ตไดเรกเตอร์ ได้เสริมว่าทีมงานได้เดินทางไปอิตาลีเพื่อรวบรวมข้อมูล และพยายามสร้างโลกที่สะท้อนถึงสภาพสังคมในยุคนั้นจริง ๆ
"คุณจะเห็นได้จากภาพถ่ายในยุคนั้นว่าประชากรในบางพื้นที่สิ้นเนื้อประดาตัวเพียงใด" เขากล่าว "ถนนเป็นเพียงฝุ่นดิน เด็ก ๆ ถูกขายไปเป็นแรงงาน คุณต้องเจอกับความยากลำบากขนาดไหน?"

แม้ว่าฉากจบของเกมดูมีความหวัง แต่ทีมงานก็ชี้ว่ามันมีความเศร้าแฝงอยู่ เมื่อพิจารณาถึงประวัติศาสตร์การเหยียดเชื้อชาติที่ผู้อพยพชาวอิตาลีต้องเผชิญในอเมริกา ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่เกม Mafia ภาคอื่น ๆ ที่มีฉากหลังในอเมริกาได้อย่างสมบูรณ์
ที่มา Polygon