เว็บไซต์ GamesRadar+ รายงานบทสัมภาษณ์ใหม่ของ Motoi Okamoto โปรดิวเซอร์ซีรี่ส์ Silent Hill จาก Konami เกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของแฟรนไชส์ หลังจากที่ภาคใหม่ล่าสุดอย่าง Silent Hill f ได้ตัดสินใจย้ายสถานที่จากเมืองสมมติในรัฐ Maine ไปยังประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้แฟนเกมบางกลุ่มรู้สึกว่ามันไม่ใช่ Silent Hill ที่แท้จริง แต่ Okamoto ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ที่จะขยายซีรีส์ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
Okamoto ให้สัมภาษณ์กับ Inverse ว่า "เราเชื่อว่าเราอาจใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกัน (กับ Silent Hill f) กับวัฒนธรรมอื่น ๆ ทั่วโลกได้" เขายกตัวอย่างเช่น ในแถบอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ ทีมงานอาจหยิบจับความเชื่อท้องถิ่นเรื่องไสยศาสตร์ (Shamanistic beliefs) มาเชื่อมโยงดู หรืออาจขยายขอบเขตไปยังภูมิภาคอื่น ๆ เช่น รัสเซีย, อิตาลี หรือเกาหลีใต้ เพราะพื้นที่เหล่านี้ล้วนมีระบบความเชื่อที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งจะเป็นประตูให้ทีมงานขยายแนวคิดออกไปได้อีก

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญคือการหาผู้พัฒนาเกมในภูมิภาคเหล่านั้นที่พร้อมรับมือกับ IP ใหญ่อย่าง Silent Hill โดย Okamoto ระบุว่าในอเมริกากลางและใต้ยังไม่มีสตูดิโอเกมชั้นนำมากนัก แม้จะมีภาพยนตร์หรือเรื่องเล่าที่น่าสนใจ แต่การแปลงสิ่งเหล่านั้นมาเป็นเกมยังเป็นเรื่องที่ต้องสำรวจต่อไป
ในอีกรายงานหนึ่ง ทีมพัฒนา NeoBards ได้เปิดเผยเบื้องหลังของ Silent Hill f ว่าเมือง Ebisugaoka ในเกมนั้น 'แทบจะไม่มีอยู่จริงในช่วงแรก' ของการพัฒนา Al Yang ผู้กำกับเกมกล่าวว่า โจทย์สำคัญคือต้องทำให้มั่นใจว่าเรื่องราวจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็น 'ผลงานของ Ryukishi07' อย่างแท้จริง (Ryukishi07 คือนักเขียนบทสยองขวัญชื่อดังจากซีรีส์ When They Cry)

Kaiyu Chang ผู้นำฝ่ายออกแบบเลเวล เล่าว่าสถานที่หลายแห่งในเกมถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับบท ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียน ซึ่งเป็นไอเดียที่ NeoBards เสนอขึ้นมาและหารือร่วมกับ Konami และ Ryukishi07 หรือ บ้านของฮินาโกะ (ตัวเอก) ซึ่งเป็นฉากพัซเซิลสำคัญ เดิมทีถูกคิดไว้เป็นเพียงเขาวงกตธรรมดา แต่ภายหลังได้เพิ่มองค์ประกอบของ 'ความทรงจำ' และไทม์ไลน์ที่หลากหลายเข้าไป เพื่อให้พื้นที่เปลี่ยนไปตามเส้นทางและฉากจบ โดย Ryukishi07 ได้เขียนบทและตำนานใหม่ ๆ เข้ามาเสริมเพื่อรองรับเกมเพลย์ส่วนนี้โดยเฉพาะ
ที่มา GamesRadar+ และ GamesRadar+