สรุปใจความเกี่ยวกับสิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง BlackSpace Engine และ Crimson Desert ทีมพัฒนา Pearl Abyss เปิดตัว BlackSpace Engine ซึ่งเป็นเอนจินใหม่ที่พัฒนาเพื่อรองรับ เกมโลกเปิด (Open World) โดยเฉพาะ และถูกใช้ในเกม Crimson Desert ซึ่งให้ภาพกราฟิกที่ สมจริงระดับน่าทึ่ง ขจัดปัญหากราฟิกเดิม ๆ เช่น Pop-in อัตราเฟรมเรตต่ำ การซ้อนทับของวัตถุ และการโหลดพื้นผิวล่าช้า
จุดเด่นของ BlackSpace Engine ที่ทำให้ Crimson Desert โดดเด่น
การเรนเดอร์ระยะไกลแบบไร้ที่ติ (Infinite Draw Distance)
- เกมสามารถแสดงรายละเอียดของโลกในระยะไกลโดยไม่มีปัญหา Pop-in
- ใช้เทคนิค Hierarchical Level Subdivision, Proxy Load, Imposter Rendering เพื่อโหลดวัตถุอย่างราบรื่นตามระยะห่างจากผู้เล่น
ฟิสิกส์และเอฟเฟกต์ที่สมจริง
- ลมและสภาพอากาศ มีผลต่อทุกองค์ประกอบในเกม เช่น หญ้า ต้นไม้ เสื้อผ้าของตัวละคร
- น้ำฝน กระเด็น ไหลรวมกันเป็นแอ่งน้ำ และทำให้เสื้อผ้าของตัวละครเปียกจริง
- ระบบน้ำขั้นสูง (FFT Ocean Simulation & Shallow Water Simulation) ทำให้กระแสน้ำเคลื่อนที่อย่างสมจริงตามภูมิประเทศ
เอฟเฟกต์การต่อสู้ที่ซับซ้อนแต่ไม่ลดเฟรมเรต
- เอฟเฟกต์เวทมนตร์ เศษไม้แตกกระจาย เปลวไฟ ฝุ่นควัน แสดงผลได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ลดประสิทธิภาพของเกม
ฟิสิกส์ของผ้าและเส้นผมที่มีการชนกันสมจริง
- เส้นผมของตัวละครไม่ทะลุเสื้อผ้า และมีการชนกับวัตถุอื่น ๆ เช่น เกราะและม้า
- ระบบนี้แก้ปัญหาการซ้อนทับของวัตถุที่พบในเกม AAA อื่น ๆ เช่น Red Dead Redemption 2
กราฟิกระดับสูง แต่ใช้สเปคเครื่องต่ำกว่าที่คาด
- แม้เกมจะมีกราฟิกสมจริงขั้นสุด แต่สเปคขั้นต่ำที่ต้องการคือ RTX 2080, RAM 16GB, Ryzen 5 5600
- สามารถเล่นได้บน PC ระดับกลาง โดยไม่ต้องใช้การ์ดจอระดับสูงสุด
ข้อสรุป
BlackSpace Engine เป็นเอนจินที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับเกมโลกเปิดของ Pearl Abyss ทำให้สามารถตัดปัญหาที่พบในเอนจินทั่วไป ออกไปได้ เช่น Pop-in(คือปรากฏการณ์ที่วัตถุหรือรายละเอียดของฉากในเกม ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน เมื่อผู้เล่นเข้าใกล้หรือเคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ใหม่ โดยที่วัตถุนั้นไม่แสดงผลตั้งแต่แรก ส่งผลให้เกมดูไม่ราบรื่นและลดความสมจริงของโลกในเกม) และการโหลดกราฟิกที่ช้า Crimson Desert จึงเป็นเกมที่มีกราฟิก สมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยยังสามารถรันได้บนเครื่องที่ไม่ต้องแรงมาก ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญของเอนจินนี้ Pearl Abyss ไม่ได้ใช้ BlackSpace แค่ใน Crimson Desert เท่านั้น แต่จะนำไปใช้กับเกมอื่นๆ เช่น DokeV และ Plan 8 ด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเอนจินนี้จะเป็นแกนหลักของเกมจากค่ายนี้ในอนาคต
ที่มา thegamer
