Ubisoft ปีงบฯ 24-25 ขาดทุน แต่ Free Cash Flow บวก! AC Shadows เปิดตัวดี เดินหน้าปรับโครงสร้าง

Ubisoft แถลงผลประกอบการปีงบประมาณ 2024-25: เผชิญความท้าทาย แต่ยังคงมองบวกสู่อนาคตด้วยการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่

Ubisoft บริษัทเกมยักษ์ใหญ่สัญชาติฝรั่งเศส ได้เปิดเผยตัวเลขผลประกอบการสำหรับปีงบประมาณ 2024-25 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2568) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวและวางรากฐานเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยมีประเด็นสำคัญคือ Net Bookings (ยอดขายสุทธิที่คาดว่าจะได้รับ) อยู่ที่ 1.85 พันล้านยูโร ลดลง 20.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีผล ขาดทุนจากการดำเนินงานที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน IFRS (Non-IFRS Operating Income) อยู่ที่ 15.1 ล้านยูโร อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงสามารถสร้าง กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow - FCF) เป็นบวกที่ 128 ล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้

ภาพรวมผลประกอบการ: ยอดขายลด แต่การบริหารเงินสดยังแข็งแกร่ง

แม้ว่า Net Bookings โดยรวมจะลดลงและต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ซึ่ง Ubisoft ชี้ว่าเป็นผลมาจากการที่ข้อตกลงกับพาร์ทเนอร์บางรายล่าช้ากว่ากำหนด แต่การที่บริษัทสามารถสร้าง FCF เป็นบวกได้นั้น แสดงให้เห็นถึงวินัยในการบริหารจัดการทางการเงินที่ดี โดยมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (Cash flow from operating activities) สูงถึง 169 ล้านยูโร

• Digital Net Bookings (ยอดขายเกมดิจิทัลสุทธิ): ยังคงแข็งแกร่ง คิดเป็น 85.9% ของ Net Bookings ทั้งหมด
• PRI (Player Recurring Investment) Net Bookings (ยอดขายจากการลงทุนซ้ำของผู้เล่น เช่น DLC, Season Pass, Subscription): คิดเป็น 43.7% ของ Net Bookings ทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงการสร้างรายได้จากผู้เล่นเดิมได้อย่างต่อเนื่อง
• Back-catalog Net Bookings (ยอดขายจากเกมเก่า): มีสัดส่วนสูงถึง 70.2% ของ Net Bookings ทั้งหมด สะท้อนถึงความนิยมที่ยังคงอยู่ของแฟรนไชส์หลักๆ
• สถานะทางการเงิน: Ubisoft มีเงินสดในมือประมาณ 1 พันล้านยูโร และสามารถลดภาระหนี้สินสุทธิ (Net Debt) ลงเหลือ 885 ล้านยูโร

Assassin’s Creed Shadows: เป็นแสงสว่างของบริษัท

การเปิดตัว Assassin’s Creed Shadows เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2568 ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญและเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 4 เกมได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้เล่นด้วยคะแนนเฉลี่ยสูงถึง 91/100 และสร้างสถิติยอดขายในวันแรก สูงสุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ Assassin’s Creed เป็นรองเพียง Assassin’s Creed Valhalla รวมถึงทำสถิติใหม่สำหรับยอดขายวันแรกบน PlayStation Store ของ Ubisoft จำนวนผู้เล่นและรายจ่ายของผู้บริโภคสำหรับ Shadows นั้นสูงกว่า Assassin’s Creed Odyssey อย่างชัดเจน ผู้เล่นใช้เวลารวมกันกว่า 160 ล้านชั่วโมงในเกมนี้ ตอกย้ำถึง Gameplay ที่น่าดึงดูดและเสน่ห์ที่ไม่เสื่อมคลายของแฟรนไชส์ และจะมี Expansion "Claws of Awaji" ที่จะเล่าเรื่องราวต่อจากบทส่งท้ายของเกม วางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้

Assassin’s Creed Shadows ยังเป็นเกมแรกที่สร้างบน Anvil Engine เวอร์ชันอัปเกรดครั้งใหญ่ของ Ubisoft ซึ่งเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งสำหรับอุตสาหกรรมและเกมในอนาคตของ Ubisoft เอง เอนจิ้นนี้นำเสนอโลกที่เต็มไปด้วยรายละเอียด พร้อมคุณภาพกราฟิกที่สวยงามยิ่งขึ้น ระบบฟิสิกส์ที่สมจริง และปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นดื่มด่ำกับประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่

แฟรนไชส์หลักยังคงแข็งแกร่ง

นอกเหนือจาก Assassin's Creed แล้ว แฟรนไชส์หลักอื่นๆ ของ Ubisoft ยังคงทำผลงานได้ดี:

• Rainbow Six: มีผู้เล่นแอคทีฟประมาณ 30 ล้านคนติดต่อกันเป็นปีที่สี่ และกำลังเตรียมเปิดตัว Rainbow Six Siege X ในวันที่ 10 มิถุนายน นี้ ซึ่งจะเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่ของแฟรนไชส์ ทั้งแผนที่ 5v5 ที่ทันสมัยขึ้น, ปรับปรุงระบบเสียงทั้งหมด, เพิ่มความลึกของ Gameplay เชิงกลยุทธ์, และปรับปรุงประสบการณ์สำหรับผู้เล่นใหม่ รวมถึงโหมดใหม่ 6v6 "Dual Front" และการปรับโมเดลธุรกิจใหม่
• Far Cry: มีผู้เล่นแอคทีฟประมาณ 20 ล้านคนต่อปี
• The Crew Motorfest และ Avatar: Frontiers of Pandora: ยังคงดึงดูดผู้เล่นใหม่และมีตัวชี้วัดกิจกรรมและการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมาก

การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่: สู่อนาคตที่แข็งแกร่งและยั่งยืน

Yves Guillemot ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Ubisoft ได้กล่าวถึงความท้าทายที่บริษัทเผชิญในปีที่ผ่านมา และได้เน้นย้ำถึงขั้นตอนที่เด็ดขาดในการเสริมสร้างอนาคตของบริษัท Ubisoft กำลังอยู่ในระหว่างการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินงานครั้งใหญ่ และมีแผนจะประกาศโครงสร้างองค์กรใหม่ภายในสิ้นปีนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้เล่นได้ดียิ่งขึ้น ส่งมอบเกมคุณภาพที่เหนือกว่า และขับเคลื่อนการจัดสรรเงินทุนอย่างมีวินัย

ก้าวสำคัญในการปรับโครงสร้าง:

1. การก่อตั้งบริษัทย่อยใหม่ (New Subsidiary) ร่วมกับ Tencent:
   • เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Ubisoft ได้ประกาศจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ โดยมี Tencent เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์หลัก บริษัทย่อยนี้จะมีบทบาทสำคัญในการเร่งการเติบโตของ 3 แฟรนไชส์ที่โดดเด่นที่สุดของ Ubisoft ได้แก่ Assassin’s Creed, Rainbow Six, และ Far Cry ซึ่งเป็น IP ที่มีศักยภาพสูงในตลาด Open World และ LiveOps และมีแผนการปล่อยคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งในอีก 5 ปีข้างหน้า
   • Tencent จะลงทุนมูลค่า 1.16 พันล้านยูโร ในการออกหุ้นใหม่ของบริษัทย่อยนี้ เพื่อเข้าถือหุ้นประมาณ 25%
   • การทำธุรกรรมนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2568 และจะช่วยให้ Ubisoft ลดภาระหนี้สินลงได้อย่างสมบูรณ์ (Fully Deleverage) และเพิ่มความยืดหยุ่นทางการเงินสำหรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
   • บริษัทย่อยใหม่นี้จะได้รับสิทธิ์ในการใช้ IP ดังกล่าวทั่วโลกอย่างผูกขาดและถาวร แลกกับการที่ Ubisoft จะได้รับค่าลิขสิทธิ์ (Royalty) ซึ่งคาดว่าจะเกิน 80 ล้านยูโรต่อปี
2. โครงการลดต้นทุน (Cost Reduction Initiatives):
   • โครงการลดต้นทุนเบื้องต้นมูลค่า 200 ล้านยูโร ประสบความสำเร็จก่อนกำหนดและทำได้ดีกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
   • Ubisoft มีแผนจะลดต้นทุนคงที่ (Fixed Cost Base) เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 100 ล้านยูโรในอีกสองปีข้างหน้า ผ่านการคัดเลือกการลงทุนที่เข้มงวดขึ้น, การปรับโครงสร้างที่ตรงจุดอย่างต่อเนื่อง, และการควบคุมการจ้างงานอย่างเข้มงวด
   • ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 จำนวนพนักงานทั้งหมดของกลุ่มบริษัทอยู่ที่ 17,782 คน ลดลงประมาณ 1,230 คนเมื่อเทียบกับปีก่อน และลดลงประมาณ 3,000 คนนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2565

คาดการณ์สำหรับปีงบประมาณ 2025-26 และเกมอื่นๆ ที่จะถูกเปิดตัวในปีนี้

• ปีงบประมาณ 2025-26 (ปีปัจจุบัน): Ubisoft คาดการณ์ว่า Net Bookings จะอยู่ในระดับทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า กำไรจากการดำเนินงานแบบ Non-IFRS จะใกล้เคียงจุดคุ้มทุน และกระแสเงินสดอิสระจะติดลบ ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบจากการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หลังจากการปิดดีลกับ Tencent กลุ่มบริษัทคาดว่าจะสามารถรักษาสถานะหนี้สินสุทธิรวม (Consolidated Net Debt Position) ให้อยู่ที่ประมาณศูนย์ได้
  • เกมสำคัญที่จะเปิดตัวในปีงบประมาณนี้ ได้แก่ Anno 117: Pax Romana, Prince of Persia: The Sands of Time remake, Rainbow Six Mobile และ The Division Resurgence รวมถึงเกมอื่นๆ ที่จะประกาศในภายหลัง
• หลังจากปีงบประมาณ 2025-26: Ubisoft คาดว่าจะกลับมามีกำไรจากการดำเนินงานแบบ Non-IFRS และสร้างกระแสเงินสดอิสระเป็นบวกได้อีกครั้งในปีงบประมาณ 2026-27 และจะมีคอนเทนต์สำคัญจากแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มบริษัทออกมาอย่างต่อเนื่องในปีงบประมาณ 2026-27 และ 2027-28 เนื่องจากการตัดสินใจให้เวลาในการพัฒนาเพิ่มเติมกับโปรดักชั่นที่ใหญ่ที่สุดบางส่วน เพื่อสร้างเงื่อนไขที่ดีที่สุดสำหรับความสำเร็จ

ที่มา : Ubisoft.com