CD Projekt Red เผยทิศทาง The Witcher 4: ผสมผสานระบบซับซ้อนแบบ Kingdom Come พร้อมแรงบันดาลใจจาก Baldur's Gate 3
หลังจากที่โลกได้เห็นภาพแรกของ The Witcher 4 ผ่าน Tech Demo ที่น่าประทับใจเมื่อไม่นานมานี้ Adam Badowski ซีอีโอร่วมของ CD Projekt Red ได้ออกมาเปิดเผยถึงทิศทางการพัฒนาสำหรับเกมภาคต่อที่นำโดย Ciri นี้ โดยกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของวงการเกมและสิ่งที่ CDPR ให้ความสำคัญ
Badowski กล่าวว่า "BioWare ได้เปลี่ยนแปลงไปแน่นอน แต่อุตสาหกรรมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เราต้องการรักษากฎหลักของเราอย่างแท้จริงในการพัฒนาเกม และแน่นอนว่า เราต้องหาสิ่งใหม่ๆ โดยเฉพาะในด้านเกมเพลย์ เพราะเรื่องราวดีๆ ไม่ได้มีความก้าวหน้ามากนัก" เขาเน้นย้ำว่า CDPR รู้สึกอย่างแรงกล้าว่ามีสิ่งดีๆ มากมายเกิดขึ้นในด้านเกมเพลย์นับตั้งแต่ The Witcher 3 และพวกเขากำลังมุ่งเน้นไปที่การตอบสนองความคาดหวังของผู้เล่นในจุดนี้
แรงบันดาลใจจาก Kingdom Come Deliverance: ความสมจริงและระบบซับซ้อน
Badowski ได้กล่าวถึงความชื่นชอบที่มีต่อเกม Kingdom Come Deliverance โดยเฉพาะในด้านความสมจริง อารมณ์ขัน และความรู้สึกของเกม และเมื่อถูกถามว่าเกมนี้มีความ "Witcher-y" อยู่บ้างหรือไม่ Badowski หัวเราะและอธิบายว่า CDPR เฝ้าดูระบบการจำลองและระบบที่ซับซ้อนของ Kingdom Come Deliverance 2 ด้วยความสนใจเป็นอย่างยิ่ง "การจำลองแบบ Kingdom Come นั้นยอดเยี่ยมมาก" เขากล่าว "มีตัวเลือกมากมาย คุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ มันยอดเยี่ยมจริงๆ และเราอยากจะรักษาสิ่งนั้น เราอยากจะตามเทรนด์นี้ด้วย ดังนั้นนี่คือก้าวต่อไปของเราอย่างแน่นอน" เขามองว่านี่เป็นความท้าทายที่คล้ายกับที่พบใน The Witcher 3 ซึ่งคือการสร้างโลกเปิดกว้าง การเล่าเรื่อง และอิสระในการเลือก พร้อมกับสร้างตัวละครที่ "เต็มไปด้วยเนื้อหาและแรงจูงใจที่ดี" ซึ่งเป็นความท้าทายในการออกแบบที่ยิ่งใหญ่
อิทธิพลจาก Baldur's Gate 3: การสร้างปฏิสัมพันธ์กับโลกและตัวละคร
แม้ว่า Larian Studios ผู้สร้าง Baldur's Gate 3 จะใช้ระบบ Turn-based ที่แตกต่างออกไป แต่ความสำเร็จของเกมก็ได้สร้างความประทับใจให้กับ CDPR อย่างมาก Badowski กล่าวว่า "ยอดขายของ BG3 นั้นน่าทึ่ง และมันหักล้าง [แนวคิดที่ว่า] ตลาด RPG มีขนาดจำกัดไปเลย มันไม่จริงเลยเมื่อเกมมันดี"
Michał Nowakowski ซีอีโอร่วมอีกคนของ CDPR สะท้อนความคิดเห็นนี้ โดยกล่าวว่า "Baldur's Gate 3 ได้สร้างแรงบันดาลใจมากมาย และบอกตามตรงว่าไม่น่าอายเลยที่จะยอมรับ ทุกคนที่เปิดตัวเกมในปัจจุบันต่างก็มองย้อนกลับไปดูว่าอะไรที่เคยทำได้ดี และพวกเขาจะนำมาปรับใช้กับสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ได้อย่างไร"
อย่างไรก็ตาม Nowakowski ย้ำชัดเจนว่า "เราจะไม่สร้างเกมแบบที่ Larian ทำ" เพราะนั่นคือแนวเกมที่ Larian เชี่ยวชาญ แต่เขายอมรับว่า "หลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวกับวิธีที่ตัวละครสามารถโต้ตอบกับโลก และสิ่งที่มันทำได้นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราอย่างแน่นอน" เขาเสริมว่า CDPR ยังคงยึดมั่นในแนวทางโลกเปิดขนาดใหญ่แบบ The Witcher 3 และ Cyberpunk แต่ก็ต้องการ "พัฒนานวัตกรรมในด้านเกมเพลย์" และหวังว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แฟนๆ จะเข้าใจในทิศทางนี้
สรุปแล้ว The Witcher 4 จะเป็นการผสมผสานระหว่างรากฐานอันแข็งแกร่งของ CDPR กับแรงบันดาลใจจากเกม RPG ที่ประสบความสำเร็จอย่าง Kingdom Come Deliverance และ Baldur's Gate 3 โดยมีเป้าหมายที่จะนำเสนอประสบการณ์โลกเปิดที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมด้านเกมเพลย์และตัวละครที่มีมิติ
ที่มา pcgamer
