Greg Reisdorf ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์โหมด Multiplayer (Multiplayer Creative Director) ของ Sledgehammer Games หนึ่งในสตูดิโอหลักที่มีบทบาทสำคัญในแฟรนไชส์ Call of Duty ได้ประกาศลาออกจากบริษัท หลังจากร่วมงานมายาวนานถึง 15 ปี ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบากของสตูดิโอที่มีต่อซีรีส์นี้ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดย Sledgehammer Games เป็นที่รู้จักกันดีจากผลงานเกมอย่าง Advanced Warfare, WWII และ Vanguard ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลงานเกม Call of Duty ที่ค่อนข้างหลากหลายและ "ผสมปนเป" ทั้งในแง่ของคุณภาพและกระแสตอบรับ
ในโพสต์ล่าสุดบนโซเชียลมีเดีย Greg Reisdorf ได้เปิดเผยถึงการก้าวลงจากตำแหน่ง โดยระบุในโพสต์บน Twitter (X) ว่า: "วันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นวันสุดท้ายของผมที่ Sledgehammer Games หลังจาก 15 ปี ผมรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับโอกาสต่าง ๆ และนักพัฒนาที่น่าทึ่งทุกคนที่ผมได้ร่วมงานด้วย"
จากนั้นเขาก็ได้เจาะลึกถึงประวัติความเป็นมาของ Sledgehammer Games เปิดเผยเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยและข้อมูลเชิงลึกอันทรงคุณค่า (tidbits and treasures) จากช่วงเวลาที่เขาทำงานที่บริษัท เขาเปิดเผยว่าเขาเป็นผู้สร้างซีเควนซ์อันโด่งดังที่ Soap ตัวละครสำคัญในเกม ต้องพ่ายแพ้และเสียชีวิตจากบาดแผลของเขาใน Modern Warfare 3 (2011) เขายังกล่าวอีกว่าเกม Advanced Warfare "เป็นความท้าทายครั้งใหญ่ แต่ในที่สุดพวกเราก็สามารถทำมันจนสำเร็จ"
เมื่อมองย้อนกลับไป Reisdorf ได้แสดงความคิดเห็นว่าโมเดล loadout แบบ "Pick 13" "ไม่ควรเกิดขึ้น" (should not have happened) ซึ่ง "Pick 13" ถือเป็นหนึ่งในหัวข้อที่สร้างความแตกแยกและถกเถียงกันมากที่สุดในชุมชน Call of Duty ในแต่ละปี
Reisdorf ยังเปิดเผยว่าเขามีบทบาทสำคัญและเป็นผู้ผลักดันแนวคิดในการนำแผนที่จาก MW2 กลับมาอีกครั้งใน Modern Warfare III (2023) แม้ว่าเกมนี้จะได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเกม Call of Duty ที่แย่ที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา แต่การ "เอาใจแฟน ๆ" (fan service) ด้วยการนำแผนที่คลาสสิกกลับมานั้น ถือเป็น "ของขวัญ" อันล้ำค่า และ Reisdorf เป็นผู้รับผิดชอบ Easter Eggs และรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ มากมาย หรือ "การแสดงความเคารพ" (nods) สำหรับแฟน COD ตัวจริง
ชุด thread โพสต์ทั้งหมดของ Reisdorf เปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งเกร็ดความทรงจำอันล้ำค่า และเป็นเนื้อหาการอ่านที่สมบูรณ์แบบสำหรับแฟน Call of Duty โดยเฉลี่ย
ที่มา : InsiderGaming
