อดีตบอส PlayStation ชี้ราคาเกมควรจะปรับขึ้นในทุกยุคของคอนโซล

แชร์เรื่องนี้:
อดีตบอส PlayStation ชี้ราคาเกมควรจะปรับขึ้นในทุกยุคของคอนโซล

แม้ว่าการเล่นวิดีโอเกมในปัจจุบันอาจจะถูกกว่าที่เคยเป็นมา แต่ในขณะเดียวกันงานอดิเรกนี้ก็กำลังมีราคาแพงขึ้นเรื่อย ๆ ราคาของวิดีโอเกมระดับพรีเมียมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และนักพัฒนาหลายคนก็คงจะบอกคุณว่าพวกเขาจำเป็นต้องขึ้นราคาเนื่องจากต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้น ซึ่ง Shawn Layden อดีตหัวหน้าของ PlayStation ก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้

เว็บไซต์ TheGamer รายงานถึงบทสัมภาษณ์ล่าสุดของ Shawn Layden อดีตหัวหน้าฝั่ง PlayStation กับสื่อ Gamesindustry (ผ่านทาง VGC) ซึ่งเขาได้อ้างว่าราคาของวิดีโอเกมยังคงค่อนข้างเท่าเดิมตลอด 20 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าต้นทุนการพัฒนาและอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นก็ตาม จากนั้นเขาก็อ้างต่อไปว่าผู้จัดจำหน่ายทั้งหมดในตอนนี้กลัวที่จะขึ้นราคา เพราะรู้ว่ามันจะเสี่ยงต่อการสูญเสียผู้เล่นที่คาดหวัง

"ไม่มีใครอยากจะเป็นคนแรกที่ขึ้นราคา เพราะคุณกลัวที่จะเสียทราฟฟิกไป ดังนั้นสิ่งที่คุณทำก็คือคุณก็ยอมลดรายได้จากการดำเนินงานและกำไรของคุณลง"

Shawn Layden

Layden ได้ตอกย้ำจุดยืนโดยระบุว่านักพัฒนาควรจะเริ่มเก็บเงินค่าเกมมากขึ้นในแต่ละเจเนอเรชันใหม่ของคอนโซลเพื่อช่วยต่อสู้กับต้นทุนการพัฒนาที่สูงขึ้น แต่อุตสาหกรรมกลับนำเอาคติที่ว่า "ตราบใดที่เราเติบโต แม้ว่าเราจะไม่ได้ทำเงิน แต่เราก็ไม่สามารถตายได้" มาใช้แทน

เขากล่าวต่อไปว่าตอนนี้อุตสาหกรรมได้มาถึงจุดวิกฤตแล้ว โดยอ้างว่า "ต้นทุนการสร้างนั้นสูงเกินไปมาก" และนักพัฒนาจำนวนมากในตอนนี้ต้องพึ่งพาการขายเกมให้ได้หลายล้านชุดซึ่งมันไม่ได้เป็นไปได้เสมอไป เขายังกล่าวอีกว่านี่คือเหตุผลที่ผู้จัดจำหน่ายในปัจจุบันชอบที่จะรีดเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ (nickel and dime) จากเราด้วย DLC, microtransaction, battle pass และอื่น ๆ"

ที่มา TheGamer, Gamesindustry และ VGC

แชร์เรื่องนี้:
Badeedooboy
Badeedooboy

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง