Michael Douse ผู้อำนวยการฝ่ายจัดจำหน่ายของ Larian ผู้ซึ่งไม่เคยอายที่จะแบ่งปันความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับธุรกิจวิดีโอเกม ได้ทำเช่นนั้นอีกครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยความคิดเห็นที่ว่าทำไมอุตสาหกรรมเกมฟอร์มยักษ์ถึงไม่สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมได้ และดังนั้นจึงกลายเป็น "หลงใหลในเกมอินดี้อย่างผิดเพี้ยน" ซึ่งดำเนินงานโดยใช้สัญชาตญาณเป็นส่วนใหญ่
เว็บไซต์ PC Gamer รายงานถึงความคิดเห็นล่าสุดของ Michael Douse ซึ่งเริ่มต้นขึ้นจากการที่เขากล่าวชื่นชมเกม Mafia: The Old Country ซึ่งทำให้ผู้ติดตามคนหนึ่งของเขาสังเกตว่า "การเลือกทำอะไรที่เฉพาะเจาะจงและทำมันให้ดีดูเหมือนจะเป็นศิลปะที่สูญหายไปในการออกแบบเกม" ซึ่ง Douse ก็ได้มีความคิดเห็นในเรื่องนี้
"อุตสาหกรรมส่วนใหญ่ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างหนักหน่วงมานาน จนความสามารถ ในการนำด้วยสัญชาตญาณของคุณได้กลายเป็นศิลปะที่สูญหายไป" เขาเขียน "นี่คือเหตุผลที่ AAA กำลังหลงใหลในเกมอินดี้อย่างผิดเพี้ยน อินดี้ไม่มีข้อมูลนั้น พวกเขาจึงต้องพึ่งพาสัญชาตญาณ"
"บางครั้งคุณจะเห็นเกมที่กำลังทำสิ่งที่เฉพาะเจาะจงมากในระดับ AAA แต่มันก็ยังคงถูกจำกัดอยู่ในการปฏิบัติของสถาบันในการวิเคราะห์ทุกอย่างผ่านข้อมูลที่มีอยู่ ชุดข้อมูลทั้งหมดกำลังกลายเป็นขยะมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันไม่สามารถทำนายเกมฮิตที่ไม่คาดคิดได้ และก็ไม่สามารถทำนายความล้มเหลวได้เช่นกัน และดังนั้นถ้าคุณไม่สามารถพึ่งพาข้อมูลได้และคุณได้สูญเสีย 'สัญชาตญาณของสถาบัน' ที่ขับเคลื่อนการแสดงออกไป คุณก็จะติดกับ"
การที่อุตสาหกรรมเกมฟอร์มยักษ์โอบรับความปลอดภัย และความซบเซาที่ตามมานั้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ในแง่ที่ว่ามันแทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้: บริษัทเกมรายใหญ่โดยพื้นฐานแล้วคือสถาบันการลงทุนในตอนนี้ ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์และต้องรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมากที่ต้องทำให้มีความสุขเหนือสิ่งอื่นใด
Douse กล่าวว่า นวัตกรรมด้านการออกแบบมาจากพื้นที่ของอินดี้ ในขณะที่อุตสาหกรรม Triple-A ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านกราฟิก: "ที่ไหนสักแห่งระหว่างสองสิ่งนี้คือนิยามของสิ่งที่ทุกคนเล่น และถ้าการเชื่อมโยงนั้นไม่ยั่งยืนคุณก็จะติดกับ"
แน่นอนว่า Larian เป็นหนึ่งในไม่กี่สตูดิโอที่สามารถร้อยด้ายนั้นได้ และประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการทำสิ่งที่เฉพาะเจาะจงมาก (เกม RPG แฟนตาซีที่กว้างใหญ่) ในขณะที่ยังคงไล่ตามสัญชาตญาณอย่างแน่วแน่
ที่มา PC Gamer
