Around The Game l Thailand Game Show เงาสะท้อนวงการเกม

แชร์เรื่องนี้:
Around The Game l Thailand Game Show เงาสะท้อนวงการเกม

เคยรู้กันหรือไม่ เมื่อก่อนนั้นงานเกมในประเทศไทยนั้นมีถึง 2 งานใหญ่ภายในหนึ่งปีประกบหัวและท้ายปี ที่ทุกๆ วันเด็กและปลายเดือนตุลา 
ภาพเหล่าเพื่อนชุดนักเรียนที่รีบวิ่งขึ้นรถไฟฟ้าช่วงเวลา 4 โมงของเย็นวันศุกร์ เพื่อไปที่งานยังคงไม่เลือนลาง แต่ด้วยวันเวลาที่เปลี่ยนผ่านทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการจัดงานเกมเองก็เช่นกัน ดังนั้นในบทความนี้เรามาร่วมย้อนวันวานของตำนานงานเกมที่ครั้งหนึ่งเราเคยไปกันครับ

เครดิต Props&Ops

ในบทความนี้เป็นการนำประสบการณ์ ความรู้สึกและความคิดเห็นของผู้เขียนเอง ประกอบกับการหาข้อมูลเพิ่มเติม ดังนั้นหากมีข้อมูลไหนที่ผิดพลาดหรือเป็นเท็จทางการกระผมก็ต้องขออภัยล่วงหน้ามา ณ ที่นี้ หากมีโอกาสในอนาคตขอสัญญาว่าจะนำเสนอข้อมูลอีกแง่มุมในฝั่งของผู้จัดงานให้ทุกท่านได้อ่านครับ และสามารถร่วมแสดงความคิดเห็น เสนอแนะข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างนี้เลยครับ พร้อมอ่านคอมเมนต์ของทุกท่านอยู่นะครับ

ชีวิตยุค 2000

ในช่วงเวลานี้ถือเป็นช่วงเวลาที่หลายๆ อย่างภายในประเทศกำลังพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารที่มือถือเริ่มเป็นสิ่งที่จับต้องได้ 
การขนส่งยุคใหม่อย่างรถไฟฟ้า อินเตอร์เน็ตและเกมก็เช่นกัน ในช่วงเวลานี้ยังไม่มีการจัดงานเกมที่ยิ่งใหญ่มากนัก จะเป็นลักษณะการจัดงานแข่งขันภายในร้านเกมโดยอาจจะมีเจ้าของร้านหรือผู้ให้บริการเกมนั้นๆ เป็นผู้ออกทุนให้ และงาน Meeting ที่ผู้ให้บริการเกมเป็นคนจัดโดยส่วนใหญ่มักจะจัดที่ร้านเกมชื่อดังในเวลานั้นหรือออฟฟิศของทางบริษัท ในส่วนของการประชาสัมพันธ์ก็ไม่ได้กว้างขวางแบบในปัจจุบันการจะรับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับเกมที่เราเล่นต้องค่อยอ่านประกาศระหว่างเข้าเกมไม่ก็ที่เว็บไซต์ของเกมหรือหนังสือเกม การมาถึงของ Facebook, IG, หรือ Tiktok ทำให้แม้ไม่เข้าเกมก็ยังได้รับข่าวสารเกี่ยวกับเกมที่คุณเล่นตลอดเวลา 

จุดเริ่มต้นงานเกม

สิ่งที่ใกล้เคียงงานเกมในเวลานั้นเริ่มต้นในปี 2005 ณ หอการประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะเป็นงานจัดแสดงด้านเทคโนโลยีของประเทศไทย 
ที่เป็นการนำเสนอเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาภายในประเทศไทยหรือสินค้าเทคโนโลยีที่มีบริษัทของไทยเป็นตัวแทนนำเข้านั้นร่วมถึง Software เกม
ที่ถูกพัฒนาด้วยฝีมือคนไทยหากเทียบเป็นสัดส่วนของงาน เกมนั้นเป็น 10 เปอร์เซ็นของตัวงานแต่ถึงอย่างนั้นภายในงานก็ได้มีการแจกเกมที่เป็นเกมในความทรงจำของใครหลายๆ คนอย่าง BongaBonga Travel และ CEO City จากฝีมือของทีมพัฒนา CyberPlanet Interactive และมีไวตามิลค์เป็นผู้สนับสนุน ถึงแม้จะเป็นเกมง่ายๆ แต่ก็ทำให้เด็กป.4 อย่างผมในเวลานั้นติดงอมแงม

ซึ่งในเวลาต่อมาอัตราส่วนการแสดงเกมภายในงานก็เพิ่มขึ้น จนถึงขั้นมีงานจัดแสดงเกมเป็นของตนเองแต่เป็นการแสดงในเชิงธุรกิจ
หากผมจำไม่ผิดจะชื่องาน Big Festival ปี 2006 หากใครมีความรู้ว่างาน Big Festival ถูกจัดครั้งแรกปีอะไรมาคอมเมนต์บอกผมหน่อย
อยากรู้เหมือนกันครับ แต่ในท้ายที่สุดปี 2007 งานเกมอย่างเป็นทางการของไทยได้ถือกำเนิดขึ้นนั่นก็คืองาน Thailand Game Show ที่จะขึ้น
ที่หอการประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในช่วงวันเด็ก ที่จะกินเวลา 3 วันตั้งแต่วัน ศุกร์-อาทิตย์ บัตรราคา 20 บาท ภายในงานจะมีผู้ให้บริการเกมออนไลน์ในเวลานั้นหลากหลายเจ้านำเกมของตนมาจัดแสดงพร้อมมีการแจกไอเทมภายในเกมหากเข้าลงทะเบียนภายในบูธ และมีเวทีกิจกรรมพร้อมตารางกิจกรรม เช่น การแข่งชิงแชมป์ การแสดงคอนเสิร์ต และกิจกรรมชิงรางวัล ในความของเด็กป.6 ในสมัยนั้นบอกได้คำเดียวเลยว่า มั่ว! มันเป็นงานที่คนเบียดเสียดกันมาและยิ่งบูธเกมชื่อดังนั้นแทบจะยืนไม่ได้เลย อีกทั้งแต่ละบูธก็พยายามเปิดลำโพงเสียงดังขึ้นเพื่อสู้กับบูธอื่นๆ มันจึงเป็นการเพิ่มเสียงแข่งกันเรื่อยๆ ที่ทำเอาหูจะแตก

ส่วนช่วงเดือนตุลาหรือพฤศจิก็เตรียมพบกับงาน Big Festival จากความทรงจำงาน Big Festival นั้นเปลี่ยนเป็นงานเกมแบบเต็มรูปแบบในปี 2008 ณ พารากอน ฮอลล์ที่เป็นงานจัดแสดงเกมเหมือนกันแต่จะเน้นในการขายสินค้าในแวดวงเกมอย่าง Play Station 3 และ Wii ที่ได้รับความนิยมในยุคนั้นพร้อมงานประกาศรางวัลให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวงการเกมทำให้ภายในงานนี้จะมีผู้ใหญ่เข้าร่วมงานมากกว่า พร้อมไม่มีการเก็บค่าเข้างานหากจำไม่ผิด

ขอบคุณรูปภาพจาก mgronline.com

ยุคสมัยของงานเกม

ยุคเริ่มต้น 2007 - 2011

เป็นช่วงเวลาที่งานเกมทั้ง 2 งานยังไม่มีความลงตัวทำให้เกิดปัญหาหลายๆ อย่างที่คล้ายกันไม่ว่าจะเป็น ปัญหาการใช้เสียงของแต่ละบูธ 
การบริหารจัดการคิวที่ไม่ชัดเจน การปล่อยให้ร้านขายของอาจจะผิดลิขสิทธิ์เช่าพื้นที่ เป็นต้น โดยภายในงานส่วนใหญ่จะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์
ของเกมออนไลน์ต่างๆ และการแจกไอเทมพิเศษเฉพาะผู้เข้าร่วมงาน บัตรค่าเข้างานอยู่ที่ประมาณ 20-50 บาทหรือสามารถใช้คูปองจากนิตยสารเกม
ที่ราคาเล่มละ 25 ก็สามารถเข้างานได้ฟรี ซึ่งแต่ละงานจะมีภาพจำที่ชัดเจนเพราะจัดกันคนละสถานที่ อย่าง Thailand Game Show จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส่วนงาน Big Festival จัดที่พารากอน ฮอลล์ทำให้ผู้คนยังมีภาพจำที่แตกต่างกันระหว่าง 2 งานดังกล่าว

ขอบคุณรูปภาพจาก sanook.com

ยุคพัฒนา 2012 - 2015

ถือว่าเป็นยุคที่เกมออนไลน์ในไทยเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก ผู้ให้บริการเกมออนไลน์แต่ละเจ้าพยายามดึงดูผู้เล่นให้มาที่งาน 
พร้อมทุ่มงบจัดกิจกรรมแจกของรางวัลต่างๆ บนเวทีหรือให้บางบูธมีการจัด Mini Concert จากศิลปินชื่อดังในเวลานั้น มันจึงให้เกิดปัญหาคนแออัดเป็นจุดๆ ทำให้งาน Thailand Game Show เลือกย้ายไปจัดงานที่ ไบเทคบางนา แต่ก็จัดได้แค่เพียง 2 ปีเพราะในเวลานั้นการเดินทางยังไม่อำนวยประกอบกับไบเทคบางนาเองก็ยังก่อสร้างไม่เสร็จดี จำได้ว่าปีแรกที่จัดคนที่มาจากรถไฟฟ้า BTS ต้องรอรถตู้ของทางไบเทครับเข้าไปที่งานทำให้มีคิวคนรอรถเป็นจำนวนมาก จนผู้จัดงานต้องเลือกย้ายไปจัดที่ พารากอน ฮอลล์แทนที่เดียวกับงาน Big Festival

ขอบคุณรูปภาพจาก thairath.co.th

ยุคเฟื่องฟู 2016 - 2020

เป็นช่วงเวลาที่งานเกมทั้ง 2 เกมรวมกันเป็น Thailand Game Show Big Festival แต่ตรงข้ามกับตลาดเกมออนไลน์ที่เริ่มถดถอย ทำให้เราได้เห็นบูธเกมออนไลน์น้อยลงและแทนที่ด้วยแบรนด์ Gaming Gear หรือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับไลฟ์สไตล์ของเกมเมอร์ อย่างเช่น iFlix อาหารสำเร็จรูปจาก CP เครื่องดื่มต่างๆ เป็นต้น พร้อมมีการเชิญบุคคลสำคัญจากภาครัฐเป็นประธานในการเปิดงานที่เป็นสัญญาณบอกว่าภาครัฐนั้นเริ่มรับรู้ถึงการมีตัวตนของตลาดเกมในไทยที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

ขอบคุณรูปภาพจาก oneesports.co.th

ยุคปัจจุบัน 2021 - ปัจจุบัน

เป็นยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากเนื่องจากเทรนด์ของเกมเมอร์ที่เปลี่ยนไป เกมออนไลน์ที่แทบไม่เหลือพื้นที่ให้ยืนและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้งานถูกงดไปในปี 2020 และ 2021 โดยสิ่งที่สังเกตได้คืองานมีความเป็นสากลมาขึ้น จากการที่มีผู้พัฒนาเกมเจ้าดังๆ ที่เราคุ้นชื่อมาร่วมในงาน อาทิเช่น Sega SNK Capcom เป็นต้น ส่วนบูธส่วนใหญ่ที่แต่ก่อนเป็นของเกมออนไลน์ก็กลายเป็นบูธของเกมมือถือ โดยตัวงานก็ได้กลับมาจัดที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ที่ได้รับการปรับปรุง แล้วในปีนี้ทางงานได้ประกาศความร่วมมือกับงานเกมระดับโลกอย่าง Gamescom พร้อมเพิ่มวันจัดงานเพื่อธุรกิจในวงการเกมโดยเฉพาะ ที่แสดงให้เห็นว่าตลาดเกมในประเทศไทยนั้นเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านโดยมีงานเกมที่จัดมาเป็นเงาสะท้อน

ขอบคุณรูปภาพจาก thailandgameshow.com

ผลผลิตของเกมเมอร์ไทย

จะเห็นได้ว่างานเกมและวงการเกมในไทยเติบโตอย่างเห็นได้ชัดตลอดระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ในตอนนี้ประเทศไทยยังห่างไกลกับคำว่า “ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเกม” เป็นแค่ประเทศที่กำลังตั้งไข่ในอุตสาหกรรมนี้ก็ว่า แต่ถึงอย่างนั้นเราก็เริ่มได้เห็นเกมที่น่าสนใจจากฝีมือของคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดนี้เป็นผลผลิตของเกมเมอร์ไทยที่ร่วมกันผลักดันให้อุตสาหกรรมเกมในบ้านเราเริ่มที่จะมีตัวตนในสายตาโลก และผมแอบดีใจทุกครั้งที่เกิดประเด็นที่เกี่ยวกับวงการเกมเหล่าเกมเมอร์ไทยเลือกที่จะยืนอยู่ในฝั่งที่ถูกต้อง เช่น การแบนการเล่นเกมแบบผิดลิขสิทธิ์ การตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับร้านขายของผิดลิขสิทธิ์ในงานเกม การไม่เห็นด้วยกับการนำบูธเกมไพ่ “ป๊อกเด้ง” มาจัดแสดง ผมเชื่อว่าหากเหล่าเกมเมอร์รุ่นต่อๆ ไปรับรู้และสานต่อแนวความคิดนี้ไว้ได้คำว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเกมคงเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

แชร์เรื่องนี้:
Karaboon
Karaboon

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง