รวมเกมน่าเล่นประจำเดือนกันยายน 2025

แชร์เรื่องนี้:
รวมเกมน่าเล่นประจำเดือนกันยายน 2025

สวัสดีเดือนกันยายน เดือนสุดท้ายก่อนที่เลขเดือนจะเข้าสู่หลักสิบ และเป็นสัญญาณของการเข้าสู่ช่วงปลายปีอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหล่าเกมเมอร์ต่างรู้ดีว่า 2-3 เดือนสุดท้ายของปีคือฤดูกาลแห่งการวางจำหน่ายเกมที่หลายคนรอคอย สำหรับเดือนนี้ก็เรียกได้ว่าดุเดือดไม่แพ้กัน เพราะมีเกมฟอร์มยักษ์มากมายเตรียมวางขายให้เลือกเล่นกันอย่างจุใจ และนี่คือรายชื่อเกมที่น่าสนใจที่เราได้รวบรวมมาป้ายยาทุกคนในเดือนนี้


Hell is Us

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S
  • วันวางจำหน่าย: 4 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,100 บาท (PC)

เริ่มต้นเดือนกันยายนด้วย Hell is Us เกม Action-Adventure บรรยากาศสุดตึงเครียดจากทีมพัฒนา Rogue Factor ที่จะพาผู้เล่นไปสำรวจโลกอันโหดร้ายและเต็มไปด้วยปริศนา ตัวเกมมีฉากหลังเป็นประเทศสมมติที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและบอบช้ำจากสงครามกลางเมือง ซ้ำร้ายยังต้องเผชิญกับ 'หายนะปริศนา' ที่ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติมากมาย ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของเกมได้กล่าวว่า "แก่นเรื่องหลักของ Hell is Us คือความรุนแรงของมนุษย์ที่เป็นวัฏจักรที่ไม่จบสิ้น ซึ่งขับเคลื่อนด้วยอารมณ์และความปรารถนาของมนุษย์เอง"

Hell is Us เป็นเกมแนว 3rd-person Action-Adventure ในโลกกึ่งเปิด (Semi-open world) แต่จุดเด่นที่ทำให้เกมนี้น่าสนใจอย่างมากคือ 'ระบบการสำรวจที่เป็นเอกลักษณ์' โดยตัวเกมจะไม่มีแผนที่, ไม่มีเข็มทิศ, และไม่มีมาร์คเกอร์บอกเควสใดๆ ทั้งสิ้น ผู้เล่นจะต้องอาศัยสัญชาตญาณและการสังเกตสภาพแวดล้อมเพื่อเดินทางและค้นหาคำตอบด้วยตนเอง ระบบการต่อสู้จะเน้นการโจมตีระยะประชิดที่ดุเดือดด้วยอาวุธโบราณอย่างดาบ, หอก, และขวาน เพราะสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติในเกมนี้ไม่สามารถถูกกำจัดได้ด้วยอาวุธสมัยใหม่ โดยผู้เล่นจะมีพันธมิตรที่ไว้ใจได้เพียงสองอย่าง คืออาวุธในมือและ 'โดรน' ที่จะคอยช่วยเหลือในการต่อสู้


Hollow Knight: Silksong

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 4 กันยายน 2025

การรอคอยที่ยาวนานใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว! หลังจากภาคแรกได้สร้างปรากฏการณ์และกลายเป็นหนึ่งในเกมอินดี้ที่ดีที่สุดตลอดกาล ในที่สุดภาคต่อที่ทุกคนรอคอยอย่างใจจดใจจ่ออย่าง Hollow Knight: Silksong ก็พร้อมให้เราได้สัมผัส ในภาคนี้เราจะไม่ได้เล่นเป็น The Knight ตัวเอกคนเดิม แต่จะได้รับบทเป็น 'ฮอร์เน็ต' (Hornet) เจ้าหญิงนักรบผู้ปราดเปรียวที่แฟนๆ รู้จักกันดี เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเธอถูกจับตัวไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคย อาณาจักรที่ถูกปกครองด้วย 'เส้นไหมและบทเพลง' ที่ชื่อว่า 'ฟาร์ลูม' (Pharloom) ฮอร์เน็ตจะต้องต่อสู้และไขปริศนาโบราณ เพื่อเดินทางขึ้นไปยังจุดสูงสุดของอาณาจักร พร้อมกับเปิดโปงความลับที่ผูกโยงกับชาติกำเนิดของเธอ

Silksong ยังคงเป็นเกมแนว Action-Adventure สไตล์ Metroidvania เหมือนภาคแรก แต่จะยกระดับทุกอย่างขึ้นไปอีกขั้นด้วยความสามารถเฉพาะตัวของฮอร์เน็ตที่มีความคล่องแคล่วว่องไวกว่าเดิม ทำให้ระบบการต่อสู้เน้นไปที่ความรวดเร็วและสวยงาม ผู้เล่นจะได้ใช้ท่วงท่าที่หลากหลาย เต้นระบำไปมาระหว่างศัตรูอย่างสง่างาม นอกจากนี้ฮอร์เน็ตยังสามารถคราฟต์อาวุธ, กับดัก, และกลไกต่างๆ เพื่อใช้ในการต่อสู้และสำรวจพื้นที่ใหม่ๆ ได้อีกด้วย ผู้เล่นจะได้สำรวจอาณาจักรฟาร์ลูมที่ล่มสลาย เผชิญหน้ากับศัตรูมากกว่า 200 ชนิด และบอสสุดยิ่งใหญ่อีกกว่า 40 ตัว! พร้อมด้วยโหมด Steel Soul สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายขั้นสุดยอด และที่ขาดไม่ได้คือเพลงประกอบสุดไพเราะจาก Christopher Larkin ผู้ประพันธ์คนเดิม


NBA 2K26

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 4 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,790 บาท

กลับมาอีกครั้งกับซีรีส์เกมกีฬารายปีที่คราวนี้เป็นคิวของบาสเก็ตบอลอย่าง NBA 2K26 จากทีมพัฒนา Visual Concepts เช่นเดียวกับภาคก่อนๆ เกมนี้จะให้ผู้เล่นได้สร้างเรื่องราวของตัวเองผ่านโหมดการเล่นต่างๆ โดยมีโหมดหลักอย่าง MyCAREER ที่มาพร้อมกับเส้นทางเรื่องราวใหม่ทั้งหมด ให้เราได้สร้าง MyPLAYER ของตัวเองและไต่เต้าจากผู้เล่นโนเนมไปสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการ NBA นอกจากนี้ในโหมด MyNBA ที่ให้เราสวมบทบาทเป็นผู้จัดการทีม ก็ยังมีเส้นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละทีมกว่า 30 รูปแบบให้ท้าทาย

จุดขายสำคัญที่สุดที่ 2K ชูโรงในปีนี้คือเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า ProPLAY™ ซึ่งเป็นการนำฟุตเทจการแข่งขัน NBA จริงๆ มาแปลงเป็นอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวในเกมโดยตรง ทำให้ทุกการเลี้ยงบอล การครอสโอเวอร์ และการเคลื่อนไหวต่างๆ มีความสมจริงและตอบสนองได้ดีกว่าที่เคย ในส่วนของโหมดการเล่นก็กลับมากันอย่างครบครัน ทั้ง MyCAREER, MyTEAM, MyNBA, The W และ Play Now


Cronos: The New Dawn

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S, Switch 2
  • วันวางจำหน่าย: 5 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,599 บาท

สำหรับคอเกมสยองขวัญจิตวิทยา ชื่อของ Bloober Team คือการการันตีคุณภาพ และในเดือนกันยายนนี้ พวกเขากลับมาพร้อมกับผลงานใหม่ล่าสุดที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอย่าง Cronos: The New Dawn เกมที่จะพาเราไปสู่โลกอนาคตที่ล่มสลาย สภาพแวดล้อมในเกมเป็นการผสมผสานที่แปลกตาระหว่างสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์เข้ากับเทคโนโลยีสไตล์เรโทร-ฟิวเจอร์ริสต์ ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น 'นักเดินทาง' ที่ทำงานให้กับองค์กรปริศนา 'The Collective' โดยมีภารกิจคือการออกสำรวจดินแดนรกร้าง เพื่อค้นหา 'รอยแยกแห่งเวลา' ที่จะส่งเราย้อนกลับไปยังโปแลนด์ในยุค 1980 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์หายนะ 'The Change'

เกมจะนำเสนอในรูปแบบ Third-person Survival Horror ที่เน้นการต่อสู้ที่ต้องใช้ไหวพริบและการวางแผน หัวใจของเกมเพลย์ที่น่าสนใจที่สุดคือระบบ 'Merging' เมื่อศัตรูถูกฆ่า ซากของมันสามารถถูกศัตรูตัวอื่น 'ดูดกลืน' เพื่อรวมร่าง ทำให้ศัตรูที่เหลือแข็งแกร่งและอันตรายกว่าเดิมมาก หนทางเดียวที่จะหยุดยั้งได้คือการ 'เผา' ร่างของพวกมันทิ้งให้เร็วที่สุด อีกหนึ่งกลไกสำคัญคือการเดินทางย้อนเวลาเพื่อ 'เก็บเกี่ยว' ดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์หายนะ แต่ยิ่งเราพกพาดวงวิญญาณเหล่านี้มากเท่าไหร่ มันก็จะมอบพลังให้เรามากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะนำมาซึ่งเสียงกระซิบและภาพหลอนที่ทำให้ตัวละครของเราเข้าใกล้ความบ้าคลั่งไปทุกที


Daemon X Machina: Titanic Scion

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S, Switch 2
  • วันวางจำหน่าย: 5 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,700 บาท

สำหรับใครที่ชื่นชอบเกมแนวขับหุ่นยนต์รบความเร็วสูง การกลับมาของซีรีส์ Daemon X Machina จะต้องทำให้คุณตื่นเต้นอย่างแน่นอนกับ Daemon X Machina: Titanic Scion เรื่องราวในภาคนี้ยังคงเป็นแนวไซไฟสุดดาร์ค ที่ให้เราสวมบทบาทเป็นสุดยอดนักรบไฮเทค ออกสำรวจดาวเคราะห์ต่างดาวที่เต็มไปด้วยอันตราย

Daemon X Machina: Titanic Scion คือเกมแนว Mecha Action ความเร็วสูง ที่จะยกระดับทุกอย่างจากภาคแรกขึ้นไปอีกขั้น หัวใจสำคัญยังคงอยู่ที่ 'การปรับแต่ง' หุ่นรบ 'Arsenal' ได้อย่างอิสระ และระบบ 'Salvage' หรือการเก็บชิ้นส่วนและอาวุธจากศัตรูที่เราโค่นลงได้กลางสนามรบ เพื่อนำมาติดตั้งบนหุ่นของเราได้ทันที ในภาคนี้ตัวเกมจะนำเสนอในรูปแบบ 'Open World' ที่เราสามารถสำรวจได้อย่างอิสระทั้งบนบกและในอากาศ และที่น่าประหลาดใจคือเกมยังเพิ่มการเดินทางด้วยการ 'ขี่ม้า' เข้ามาอีกด้วย! และข่าวดีที่สุดสำหรับสาย Co-op คือ เราสามารถร่วมมือกับเพื่อนอีกสองคนในรูปแบบออนไลน์ Co-op 3 คน เพื่อลุยภารกิจเนื้อเรื่องและปราบบอสขนาดยักษ์ไปด้วยกันได้


Borderlands 4

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S
  • วันวางจำหน่าย: 12 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,790 บาท

เตรียมตัวรับความวินาศสันตะโร เพราะราชาแห่งเกม Looter Shooter จะกลับมาทวงบัลลังก์อีกครั้งกับ Borderlands 4 ภาคนี้จะพาเราไปยังดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่ถูกซ่อนไว้ชื่อว่า 'ไครอส' (Kairos) ซึ่งถูกปกครองโดยเผด็จการสุดโหด 'The Timekeeper' เราจะได้รับบทเป็นหนึ่งในสี่ Vault Hunters หน้าใหม่ ที่ต้องเข้าไปพัวพันกับการปลุกระดมผู้คนเพื่อก่อการปฏิวัติและโค่นล้มอำนาจของเขาลงให้ได้

หัวใจของเกมยังคงเป็นเกมเพลย์แบบ 'Looter Shooter' ที่ทุกคนรัก นั่นคือการยิงแหลก, เก็บของ, และตามล่าหาปืนสุดโหดนับพันล้านกระบอก แต่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคนี้ คือระบบการเคลื่อนที่ที่ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ผู้เล่นจะมีความคล่องตัวสูงมาก ด้วยความสามารถทั้ง 'กระโดดสองชั้น', 'ร่อนกลางอากาศ', 'พุ่งตัวหลบ', และการใช้ 'ตะขอเกี่ยว' (Grappling Hook) ทำให้การต่อสู้มีความรวดเร็วและเป็นสามมิติมากกว่าที่เคย ผู้เล่นจะได้ออกสำรวจโลกอันกว้างใหญ่ของดาวไครอสด้วย 'Hover Bike' และที่ขาดไม่ได้คือโหมด Co-op 4 คน ที่ออกแบบมาอย่างดีเยี่ยม


Dying Light: The Beast

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S
  • วันวางจำหน่าย: 19 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,799 บาท

ภาคต่อที่แฟนๆ ฟรีรันนิ่งตบซอมบี้รอคอยก็มาถึงแล้ว กับการกลับมาของตัวเอกในตำนานที่ทุกคนคิดถึงในเกม Dying Light: The Beast เรื่องราวในภาคนี้จะเป็นการสานต่อชะตากรรมของ 'ไคล์ เครน' (Kyle Crane) ตัวเอกตลอดกาลจากภาคแรก หลังจากที่เขาติดเชื้อในภาคเสริม The Following เขาได้หลบหนีออกมาได้สำเร็จ แต่สงครามที่แท้จริงกลับเกิดขึ้นภายในร่างกายของเขาเอง เขาต้องดิ้นรนเพื่อควบคุม 'อสูรร้าย' ที่อยู่ในตัว ก่อนที่จะออกเดินทางเพื่อล้างแค้น โดยมีฉากหลังเป็นพื้นที่ใหม่ที่เรียกว่า 'คาสเตอร์วูดส์' (Castor Woods)

ตัวเกมยังคงเป็นแนว Open-world Action Survival Horror ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ที่มีเสาหลัก 3 อย่างครบถ้วน คือการต่อสู้ระยะประชิดที่โหดเหี้ยม, ระบบปากัวร์ที่ยอดเยี่ยม, และวัฏจักรกลางวัน/กลางคืนที่น่าสะพรึงกลัว แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้ภาคนี้น่าตื่นเต้นที่สุด คือการที่เราจะได้เล่นเป็นไคล์ เครน ที่ตอนนี้เป็นครึ่งคนครึ่งอสูร ตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เราสามารถ 'สลับ' สไตล์การเล่นระหว่างร่างมนุษย์และร่างอสูรได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ภาคนี้ยังนำ 'รถยนต์ออฟโรด' กลับมาให้ผู้เล่นได้ขับขี่ตะลุยฝ่าฝูงซอมบี้อีกด้วย และแน่นอนว่าสามารถเล่นร่วมกับเพื่อนได้ในโหมด Co-op สูงสุด 4 คน


Trails in the Sky 1st Chapter

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 19 กันยายน 2025

แฟนๆ เกม JRPG ที่ชื่นชอบเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งจะต้องยินดีกับการกลับมาของหนึ่งในซีรีส์ที่ได้รับการยกย่องว่ามีบทที่ดีที่สุดในวงการกับ Trails in the Sky 1st Chapter เกมนี้คือการนำเกมภาคแรกสุดที่เป็นจุดเริ่มต้นของมหากาพย์ซีรีส์ Trails กลับมา 'รีเมค' ใหม่อย่างสมบูรณ์แบบ เรื่องราวจะติดตามการเดินทางของสองตัวเอก เอสเทล ไบรท์ และ โจชัว พี่ชายบุญธรรม ในฐานะ 'เบรเซอร์' (Bracer) ฝึกหัด การเดินทางของพวกเขาเริ่มต้นจากภารกิจง่ายๆ แต่กลับค่อยๆ นำพาทั้งสองเข้าไปพัวพันกับแผนการสมคบคิดทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่และอันตราย

จุดเด่นที่สุดของภาครีเมคนี้ คือการยกเครื่องระบบการต่อสู้ใหม่ทั้งหมด โดยตัวเกมจะมอบทางเลือกให้ผู้เล่นว่าจะเล่นในรูปแบบ 'Turn-based' แบบดั้งเดิม หรือ 'Real-time Action' ที่เพิ่มเข้ามาเป็นครั้งแรก นอกจากนี้ ตัวเกมยังได้รับการยกเครื่องใหม่ในทุกๆ ด้าน ทั้งกราฟิก HD, การปรับปรุงเกมเพลย์ให้ทันสมัย, และการเพิ่ม 'เสียงพากย์' ใหม่ทั้งหมดทั้งในภาษาอังกฤษและญี่ปุ่น


SILENT HILL f

  • แพลตฟอร์ม: PC, PS5, XSX/S
  • วันวางจำหน่าย: 25 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 2,113 บาท

และแล้วก็มาถึงคิวของหนึ่งในราชาแห่งเกมสยองขวัญจิตวิทยา กับการเปิดศักราชใหม่ของเมืองห่าผีในชื่อ SILENT HILL f ที่ทำให้ภาคนี้น่าจับตามองเป็นพิเศษ คือการรวมตัวของทีมงานระดับตำนาน โดยจะได้ Ryukishi07 (ผู้สร้างซีรีส์ Higurashi และ Umineko) มาเป็นผู้เขียนบท และการกลับมาของ Akira Yamaoka ผู้ประพันธ์เพลงประกอบคู่บุญของซีรีส์

SILENT HILL f จะฉีกแนวทางเดิมๆ ด้วยการพาเราย้อนกลับไปในประเทศ ญี่ปุ่น ยุค 1960 เรื่องราวจะเกิดขึ้นในเมืองชนบท 'เอบิสึกาโอกะ' (Ebisugaoka) ที่ซึ่งตัวเอก 'ชิมิสุ ฮินาโกะ' (Shimizu Hinako) ต้องเผชิญหน้ากับฝันร้ายเมื่อเมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกปริศนา ตัวเกมจะนำเสนอในรูปแบบ Psychological Horror ที่เน้นการสร้างบรรยากาศที่กดดัน โดยรูปแบบการเล่นจะยังคงเน้นไปที่องค์ประกอบหลักที่แฟนๆ คุ้นเคยกันดี นั่นคือ การสำรวจ, การไขปริศนาที่ซับซ้อน, และการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด


Sonic Racing: CrossWorlds

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 25 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,899 บาท

เปลี่ยนบรรยากาศจากความสยองขวัญ มาสู่ความเร็วแรงทะลุพิกัดกันบ้าง กับเกมแข่งรถภาคใหม่ล่าสุดของเจ้าเม่นสายฟ้าและผองเพื่อน Sonic Racing: CrossWorlds เกมนี้จะไม่ได้เน้นเนื้อเรื่องที่ซับซ้อน แต่จะโฟกัสไปที่การแข่งขันสุดมันส์ ที่รวบรวมเอาตัวละครดังจากจักรวาล Sonic และ SEGA มาประชันความเร็วกันข้ามมิติ

Sonic Racing: CrossWorlds คือเกมแข่งรถสไตล์ Arcade Kart Racer ที่เน้นความสนุกและความโกลาหลเป็นหลัก แต่หัวใจสำคัญที่ทำให้ภาคนี้น่าสนใจที่สุด คือระบบใหม่ที่เรียกว่า 'Travel Rings' ที่จะ 'วาร์ป' ผู้เล่นไปยังมิติอื่นๆ กลางการแข่งขันเลย ทำให้ฉากและเส้นทางของการแข่งขันเปลี่ยนแปลงไปอย่างคาดเดาไม่ได้ ตัวเกมมาพร้อมกับตัวละครให้เลือกเล่นถึง 23 ตัว, ยานพาหนะ 45 รูปแบบ และไอเทมอีก 23 ชนิด พร้อมรองรับโหมดออนไลน์สูงสุดถึง 12 คน


Atelier Resleriana: The Red Alchemist & the White Guardian

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 26 กันยายน 2025

มาดูเกม JRPG สไตล์น่ารักสดใสที่เน้นการผสมของหรือคราฟต์ไอเทมกันบ้างกับ Atelier Resleriana: The Red Alchemist & the White Guardian เรื่องราวจะเกิดขึ้นในเมือง 'ฮัลล์ไฟน์' (Hallfein) ที่เคยรุ่งเรืองแต่กลับต้องล่มสลาย ตัวเอกสองคนคือ รีอาส ไอไดรส์ และ สเลด คลอสลีเตอร์ มีเป้าหมายร่วมกันคือการค้นหาความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับชาวเมืองในอดีต และข่าวดีคือจะมีตัวละครจากภาคก่อนๆ มาร่วมปาร์ตี้กับเราด้วย

เกมเพลย์จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ได้แก่ การสำรวจและเก็บวัตถุดิบ, การต่อสู้แบบ 'Timeline Command Battle', การปรุงยา (Synthesis) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของซีรีส์ และการพัฒนาเมือง โดยไอเทมที่เราสร้างขึ้นสามารถนำไปขายเพื่อนำเงินมาพัฒนาเมืองฮัลล์ไฟน์ให้กลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง เป็นวงจรเกมเพลย์ที่สมบูรณ์และน่าติดตาม


EA SPORTS FC™ 26

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 26 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 1,999 บาท

และแล้วก็มาถึงคิวเกมมหาชนประจำปีของแฟนๆ ลูกหนัง EA SPORTS FC™ 26 ตามธรรมเนียมของเกมกีฬา ภาคนี้จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้สร้างตำนานของตัวเองผ่านโหมด Career และในปีนี้ยังมีการเพิ่มระบบ 'Manager Live Challenges' ที่จะนำเสนอสถานการณ์และเนื้อเรื่องสดใหม่เข้ามาท้าทายผู้เล่นตลอดทั้งฤดูกาล

EA SPORTS FC™ 26 ชูประเด็นเรื่องการพัฒนาเกมโดยอิงจากความคิดเห็นของผู้เล่นในคอมมูนิตี้เป็นหลัก การเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจที่สุดคือการเพิ่มระบบ 'Gameplay Presets' สองรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน คือ Competitive Preset ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นออนไลน์ และ Authentic Preset ที่เน้นความสมจริงสำหรับโหมด Career นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงพื้นฐานของเกมเพลย์อีกมากมาย โดยเฉพาะผู้รักษาประตูที่จะได้รับการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด


PAC-MAN WORLD 2 Re-PAC

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 26 กันยายน 2025
  • ราคา: เริ่มต้นที่ 890 บาท

สำหรับใครที่เติบโตมากับเกมแพลตฟอร์มเมอร์ 3 มิติในยุค PlayStation 2 เตรียมพบกับการกลับมาของตัวละครสุดคลาสสิกใน PAC-MAN WORLD 2 Re-PAC เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อเหล่าแก๊งค์ผีได้ขโมย 'ผลไม้ทองคำ' (Golden Fruit) ไป และได้ปลดปล่อยราชาผี 'Spooky' ออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แพคแมนจึงต้องออกเดินทางผจญภัยเพื่อทวงคืนผลไม้ทองคำและหยุดยั้งแผนการร้าย

รูปแบบการเล่นจะเป็นแนว 3D Platformer ผจญภัยสุดคลาสสิก ที่ผู้เล่นจะได้ใช้ความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ของแพคแมน ทั้งการวิ่ง, การกินจุด, และท่ากระแทกก้น 'Butt-Bounce' ในตำนาน และในเวอร์ชั่น Re-PAC นี้ ไม่ใช่แค่การปรับปรุงกราฟิก แต่ทีมงานได้ 'สร้างใหม่' และ 'เพิ่มเติม' เข้าไปอีกมากมาย ทั้งการขยายฉาก, การเพิ่มท่าแอ็คชั่นใหม่, การปรับปรุงบอส, และที่สำคัญคือการเพิ่ม 'เสียงพากย์' และ 'โหมดการเล่น 2 คน' เข้ามาเป็นครั้งแรก


LEGO® Party!

  • แพลตฟอร์ม: PC, PlayStation, Xbox, Switch
  • วันวางจำหน่าย: 30 กันยายน 2025
  • ราคา: 656 บาท

ปิดท้ายเดือนกันยายนกันด้วยเกมที่จะมาสร้างเสียงหัวเราะและความอลหม่านให้กับคุณและเพื่อนๆ กับสุดยอดปาร์ตี้เกมจากโลกของตัวต่อในตำนาน LEGO® Party! เกมนี้จะเน้นไปที่การแข่งขันสุดป่วนระหว่างผู้เล่น โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือการสะสม 'Golden Bricks' หรือตัวต่อสีทองให้ได้มากที่สุด

LEGO® Party! คือเกมแนวปาร์ตี้เกมสำหรับผู้เล่นสูงสุด 4 คน ที่เต็มไปด้วยมินิเกมสุดฮามากกว่า 60 เกม ซึ่งแต่ละเกมก็จะมาจากธีมของชุด LEGO สุดคลาสสิกที่ทุกคนรัก ผู้เล่นจะต้องแข่งขันกันใน 'Challenge Zones' ที่หลากหลาย และสามารถใช้ 'Power-ups' เพื่อสร้างความได้เปรียบ หรือวางกับดักเพื่อแกล้งเพื่อนได้ตลอดเวลา จุดเด่นที่สุดของเกมคือระบบ 'Cross-platform Online Multiplayer' ที่ทำให้เราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มไหนก็ตาม


และนี่ก็คือทั้งหมดของเกมน่าเล่นประจำเดือนกันยายน 2025 ที่เรานำมาฝากกัน จะเห็นได้ว่าเป็นอีกเดือนที่เต็มไปด้วยเกมฟอร์มยักษ์และเกมน่าสนใจหลากหลายแนว ในช่วงปลายปีแบบนี้บอกเลยว่ามีเกมออกมาให้เล่นกันอีกเพียบ อย่าลืมตรวจสภาพกระเป๋าเงินของตัวเองเอาไว้ให้ดีๆ หากเกมในรายการนี้ยังไม่จุใจ สามารถเข้าไปดูรายชื่อเกมทั้งหมดได้ที่เมนู Calendar ด้านบนได้เลยครับ

Worrapol T.
Worrapol T.

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง