Persona 5: The Phantom X ฉบับเกมมือถือจากทีมพัฒนาจีนจะออกมาเป็นอย่างไร

แชร์เรื่องนี้:
Persona 5: The Phantom X ฉบับเกมมือถือจากทีมพัฒนาจีนจะออกมาเป็นอย่างไร

เมื่อสังคมที่เราอยู่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม ผู้คนเริ่มหมดความปรารถนาในการใช้ชีวิต แต่มีกลุ่มคนอยู่กลุ่มหนึ่งที่ยังยืนหยัดไม่ย่อท้อต่อความอยุติธรรมเหล่านั้น... นี่คือนิยามของเกม Persona 5: The Phantom X ที่ผมได้สัมผัส และเป็นภาคแรกในซีรีส์นี้ที่ผมได้เล่นเลยครับ

ในภาคนี้ตัวเกมได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นเกมแนว Gacha ที่ได้รับความนิยมในยุคสมัยนี้ แต่ยังคงความเป็น Persona แบบ JRPG ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Life Simulation ที่มีช่วงเวลากลางวัน-กลางคืน, มี NPC ให้พูดคุยสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบที่ชูความเป็น Persona โดยลูปการเล่นของเกมนี้จะเป็นการวนระหว่างการเล่นเนื้อเรื่อง, สำรวจ Metaverse, ใช้พลังงานฟาร์มของ, และเคลียร์เควสประจำวัน

รายละเอียดของ Persona ฉบับมือถือนี้จะเป็นอย่างไร ให้พวกเรา Pocket Pixel มาเล่าให้ฟังกันครับ


ก่อนจะเล่น P5X: มาทำความรู้จักซีรีส์ Persona กันก่อน

ก่อนที่เราจะพูดถึงเนื้อเรื่องของ Persona 5: The Phantom X ผมอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับซีรีส์ Persona กันก่อน โดย Persona นั้นดั้งเดิมแล้วเป็นซีรีส์ย่อย (Spin-off) ของ Shin Megami Tensei ที่ถูกพัฒนาจากค่าย Atlus ซึ่งตัวเกมเป็นแนว JRPG ที่เล่าถึงการต่อสู้ระหว่างความเชื่อและปีศาจ, ปรัชญา และอะไรทำนองนั้น จนตัวซีรีส์ Shin Megami Tensei ได้รับความนิยมมากและมีออกมาหลากหลายภาค

กระทั่งมีภาคหนึ่งที่จุดประกายให้เกิดซีรีส์ย่อยอย่าง Persona ขึ้นมา นั่นคือภาค Shin Megami Tensei If... ที่ตัวเกมแตกต่างจากภาคก่อนๆ ตรงที่ฉากหลังของเรื่องราว (World Setting) อยู่ภายในโรงเรียน และมีระบบใหม่ที่เรียกว่า "Guardian" ออกมาให้ใช้ในการต่อสู้ ทำให้ภาคนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจนต้องทำซีรีส์แยกออกมาเป็น Revelations: Persona และถือว่าเป็น Persona ภาคแรกของซีรีส์นี้ ซึ่งแน่นอนว่ากระแสตอบรับดีมากๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาคนี้เป็นภาคแรกที่ถูกนำมาแปลและวางขายในต่างประเทศ หลังจากนั้นก็มี Persona 2, 3, 4, และ 5 ตามลำดับออกมา

แต่ละภาคก็จะมีธีมที่ไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น:

  • Persona 3: ตัวเอกจะต้องเผชิญหน้ากับความเป็นและความตาย และเข้าไปยัง "Dark Hour" เพื่อสู้กับเหล่า Shadow สัญลักษณ์ของภาคนี้คือการที่ตัวเอกใช้ปืน (Evoker) ยิงตัวเองเพื่อเรียก Persona ออกมา เปรียบเสมือนการยอมรับความตายเป็นส่วนหนึ่งของการมีชีวิต
  • Persona 4: ตัวเอกจะเข้าไปในจอทีวีเพื่อค้นหาความจริงของตำนานเมืองที่ว่า "หากดูทีวีตอนเที่ยงคืนจะพบกับเนื้อคู่" แต่ภาพที่ปรากฏแท้จริงแล้วคือเหยื่อรายต่อไปของคดีฆาตกรรม วิธีการปลุก Persona ในภาคนี้คือการเผชิญหน้ากับด้านมืดในจิตใจของตัวเองและยอมรับมันเป็นส่วนหนึ่งของเรา
  • Persona 5: ธีมของเรื่องคือการกบฏต่อสังคมที่ไม่ยุติธรรมและการปลดปล่อยหัวใจ ในภาคนี้กลุ่มตัวเอกมองเห็นถึงสังคมที่ถูกกดขี่ข่มเหงและทุจริตของพวกผู้ใหญ่ จึงสร้างตัวตนอีกตัวตนหนึ่งขึ้นมาในชื่อ Phantom Thieves โดยการเข้าไปในจิตใจของผู้ใหญ่ผ่านแอปพลิเคชันปริศนาบนมือถือ เพื่อขโมย "หัวใจ" ของเป้าหมาย ทำให้พวกผู้ใหญ่สำนึกผิดในโลกแห่งความเป็นจริง สัญลักษณ์ของภาค 5 นี้ก็คือ "หน้ากาก" ซึ่งเปรียบได้กับในสังคมปัจจุบันที่พวกเราทุกคนต่างก็ใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่เมื่อใดที่เราถอดหน้ากากออกในโลกภายใต้จิตใจ เมื่อนั้นเราก็จะได้พลังแห่งการตระหนักรู้เป็น Persona ของเรา

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลที่ผมไปค้นคว้ามาเพื่อที่จะเข้าใจความเป็น Persona และดื่มด่ำไปกับเนื้อเรื่องของซีรีส์นี้ก่อนที่จะเริ่มเล่น Persona 5: The Phantom X ครับ เพราะฉะนั้นหากมีตรงไหนที่ผมอธิบายผิดก็ขออภัยด้วย ได้ยินมาว่าแฟนๆ เกมนี้ค่อนข้างจริงจังกับ Lore พอสมควรเลยทีเดียว (ฮา)


สู่เรื่องราวของ The Phantom X

กลับมาที่ Persona 5: The Phantom X ที่ได้ทีมพัฒนาอย่าง Black Wings Game Studio และ P-Studio ซึ่งเป็นทีมพัฒนาจากประเทศจีนได้สิทธิ์มาจากทาง SEGA เนื้อเรื่องของภาคนี้ใช้ธีมเดียวกันกับ Persona 5 ทั้งฉากการตื่นรู้ที่ตัวเอกของเราถอดหน้ากากออกเพื่อปลุกพลัง (Awakening) Persona ของตัวเอง หรือห้อง Velvet Room อันคุ้นเคย

ตัวเอกของภาคนี้มีชื่อว่า นางิสะ คามิชิโระ (Nagisa Kamishiro) แต่ในคราบ Phantom Thief จะมีโค้ดเนมว่า "Wonder" ซึ่งผู้เล่นสามารถตั้งชื่อตัวเองเข้าไปแทนที่ได้

เรื่องราวเริ่มต้นที่หนุ่มมัธยมปลาย (ตัวเอกของเรา) ที่บังเอิญได้เข้าไปพัวพันกับปรากฏการณ์ประหลาด ซึ่งทำให้ “ความปรารถนา” ของผู้คนหายไปอย่างลึกลับ หลังจากฝันร้ายที่ได้เจอกับ Joker เขาได้รับพลังในการเข้าสู่ Metaverse และปลุก Persona ของตนขึ้นมา พร้อมทั้งได้พบกับ Lufel นกฮูกปริศนา และ Igor คุณลุงจมูกยาวที่เราเจอกันทุกภาค กับ Merope พนักงานสาวแห่ง Velvet Room ที่คอยชี้นำทาง ทั้งหมดได้ร่วมกันจัดตั้งทีม Phantom Thieves รุ่นใหม่ เพื่อบุกเข้าไปยัง Palaces ของผู้ใหญ่ที่บิดเบือนความปรารถนา และขโมยมันกลับคืนมา

ต้องบอกว่าถ้าใครชอบดูอนิเมะอยู่เป็นทุนเดิม คุณจะสามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน เพราะมีทั้งรูปแบบ Visual Novel สลับกับคัตซีนแบบอนิเมชันให้ดู ราวกับว่าเรากำลังดูอนิเมะอยู่เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ที่น่าประทับใจคือตลอดการเล่นเนื้อเรื่อง ตัวเกมจะแนะนำระบบต่างๆ มาให้เราได้อย่างแนบเนียน จนผมไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่า "อ้าว นี่กำลังสอนระบบเปิดกาชาอยู่เหรอ"


เจาะลึกระบบการเล่น: JRPG ที่ผสมผสานความเป็น Gacha

ภาพรวมของระบบการเล่นในเกมนี้ ผมขอแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆ ครับ

1. เนื้อเรื่องและเควสรอง

เนื่องจาก Persona เป็นเกมที่เน้นเนื้อเรื่องเป็นหลักอยู่แล้ว เราจะได้เล่นทั้งเนื้อเรื่องหลักและเควสรองเพื่อทำความเข้าใจโลกของเกมมากขึ้นและเพิ่มเลเวลไอดีของเราด้วย เควสรองในเกมนี้ทำออกมาได้มีเสน่ห์มาก อย่างเควสที่ผมบังเอิญเจอระหว่างทางกลับบ้าน ที่ได้พบกับ มินามิ ลูกสาวร้านขายของชำที่กำลังดูแลเด็กๆ ทำให้เรารู้สึกว่า NPC ในเกมนี้ดูมีชีวิตชีวา ราวกับว่าจะเป็นหนึ่งในตัวละครที่เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ด้วยได้เลย

2. ชีวิตประจำวัน (กลางวัน - กลางคืน)

เวลาของเกมนี้จะมีอยู่ 4 ช่วง ได้แก่ ช่วงเรียน, ช่วงหลังเลิกเรียน, ช่วงเย็น, และช่วงกลางคืน

ในฐานะนักเรียน เราต้องเข้าเรียน ซึ่งเกมจะมีบทสนทนาการเรียนที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน พร้อมคำถามความรู้รอบตัวเล็กๆ น้อยๆ ให้เราตอบ หลังเลิกเรียน เราสามารถใช้ Action Points (ที่จะรีเซ็ตให้ 5 แต้มทุกวัน) ไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ทำงานพาร์ทไทม์, ดูหนัง, เล่นเกม เพื่อเพิ่มค่า Social Stats ทั้ง 5 ค่า ได้แก่

  • Knowledge (ความรู้)
  • Guts (ความกล้า)
  • Proficiency (ความชำนาญ)
  • Kindness (ความเมตตา)
  • Charm (เสน่ห์)

ค่าสถานะเหล่านี้จะปลดล็อกฟังก์ชันใหม่ๆ รวมถึงเพิ่มระดับ Synergy หรือเลเวลความสัมพันธ์ของเรากับตัวละครอื่นๆ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกความสามารถใหม่ๆ ในการต่อสู้ได้อีกด้วย

3. การต่อสู้แบบเทิร์นเบสอันเป็นเอกลักษณ์

ระบบการต่อสู้ของเกมนี้ถอดแบบมาจาก Persona 5 เลยครับ ทั้งระบบแพ้ทางธาตุ และระบบ All-Out Attack อันเป็นสัญลักษณ์

  • ระบบแพ้ทาง: เราสามารถโจมตีจุดอ่อนของศัตรู (Shadow) ด้วยธาตุต่างๆ เช่น ไฟ, น้ำแข็ง, ไฟฟ้า, ลม, กายภาพ, ปืน และอีกมากมาย การโจมตีจุดอ่อนจะทำให้ศัตรูติดสตั๊นและเราจะได้รับเทิร์นโจมตีเพิ่ม (Extra Turn)
  • All-Out Attack: เมื่อศัตรูทุกตัวในสนามติดสตั๊น เราจะสามารถสั่งใช้ All-Out Attack ซึ่งเป็นฉากคัตซีนสุดเท่ที่ตัวละครทั้งหมดจะเข้ารุมโจมตีศัตรูพร้อมกัน
  • การสร้าง Persona: ตัวเอกของเราสามารถสวมใส่ Persona ได้สูงสุดถึง 3 ตน และสามารถสร้าง (Fusion) Persona ใหม่ๆ ขึ้นมาใช้เองได้ใน Velvet Room เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการโจมตี

นอกจากนี้ยังมีระบบเล่นอัตโนมัติและเร่งความเร็วเพื่อความสะดวกสบายอีกด้วย

4. องค์ประกอบความเป็นเกม Gacha

แน่นอนว่าเมื่อเป็นเกมมือถือ ก็ต้องมีระบบที่คุ้นเคยกันดี:

  • ระบบพลังงาน (Stamina): ใช้สำหรับลงดันเจี้ยนเพื่อฟาร์มของอัปเกรดตัวละครและอาวุธ ซึ่งเกมมีระบบ QoL ที่ให้เราสามารถกดใช้ Stamina จำนวนมากได้ในครั้งเดียวเพื่อลดการฟาร์มซ้ำๆ
  • หอคอยร้อยชั้น (Challenge Battle): สามารถเข้าไปท้าทายได้ใน Velvet Room เพื่อรับเพชรและของรางวัล
  • Phantom Pass: แบตเทิลพาสรายเดือนที่มีทั้งของรางวัลฟรีและแบบพรีเมียม
  • ระบบกาชา: มีตู้กาชาหลากหลายรูปแบบ ทั้งตู้จำกัดเวลา, ตู้อาวุธ, ตู้ถาวร และตู้สำหรับผู้เล่นใหม่ เรตสำหรับตัวละคร 5 ดาวอยู่ที่ 0.8% และมีการันตีที่ 80 โรล พร้อมระบบ 50/50 ที่คุ้นเคย

อีเวนต์และกิจกรรมในช่วงเปิดตัว

ในช่วงที่ผมเล่นมีอีเวนต์ครอสโอเวอร์ "Crossroad of Fate: Castle Arc" ที่ตัวเอกจากภาค The Phantom X และภาค 5 มาร่วมมือกัน และยังมีกิจกรรมให้เข้าไปเยี่ยมชมร้านกาแฟ Leblanc เพื่อพบปะพูดคุยกับเหล่าตัวละครจากภาค 5 ให้หายคิดถึงกัน พร้อมกับกิจกรรมล็อกอินและภารกิจต่างๆ ที่แจกของรางวัลมากมาย


รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้โลกของเกมมีชีวิตชีวา

นอกจากระบบหลักแล้ว เกมยังมีรายละเอียดยิบย่อยอีกเพียบที่ทำให้เกมน่าสนใจยิ่งขึ้น เช่น

  • สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง: ส่งผลต่อกิจกรรมที่เราทำ เช่น การอ่านหนังสือในห้องสมุดตอนฝนตกจะเพิ่มค่า Knowledge ได้มากขึ้น
  • Thief Den: ที่พักของเหล่า Phantom Thief ใน Metaverse ที่ช่วยสร้างรายได้แบบ Passive
  • ร้านค้าใน Shibuya: ที่เราสามารถซื้อไอเทมต่างๆ ทั้งของใช้และของขวัญเพื่อเพิ่มค่าความสัมพันธ์
  • ระบบคราฟต์ของ, ทำอาหาร, ปลูกผัก

สไตล์ศิลป์และดนตรีประกอบที่ไม่เหมือนใคร

อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพูดถึงคือ Art Style ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Persona และเพลงประกอบที่ยอดเยี่ยม ต่อให้คุณไม่เคยเล่น Persona มาก่อน ผมมั่นใจว่าคุณจะต้องเคยได้ยินเพลงประกอบของซีรีส์นี้ผ่านหูมาบ้างแน่นอน อย่างเพลงที่คุ้นหูผมมากที่สุดคือ "Beneath the Mask" ที่ผมเพิ่งรู้ว่ามาจากเกม Persona ก็ตอนที่ได้มาเล่น The Phantom X นี่เอง

ถ้าให้ผมนิยามเกม Persona แบบอารมณ์ส่วนตัวล้วนๆ ผมให้ 3 คำ: โคตรเท่ โคตรเบียว โคตรอันตราย ขอบคุณครับ


บทสรุปและข้อสังเกต

สำหรับใครที่จะลองโหลดเกมนี้มาเล่นบนมือถือ ผมขอแนะนำให้เปิดแอร์หรือมีพัดลมระบายความร้อนติดไว้ด้วย เพราะตัวเกมค่อนข้างทำให้โทรศัพท์ร้อนพอสมควรเลยครับ ถึงแม้ว่าเกมจะสามารถเปิดเล่นที่ 60 FPS ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องร้อนขึ้น

แชร์เรื่องนี้:
Seiywnick
Seiywnick

Content Writer