5 เหตุที่อาจบ่งบอกว่าทำไมถึงฮิดได้ขนาดนี้
PEAK เกมอินดี้ปีนเขาสุดอลม่านแนว Co-op Survival ที่ผสมผสานความน่ารักเข้ากับความท้าทายได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถครองใจผู้เล่นได้ทุกกลุ่มและกลายเป็นปรากฏการณ์ในวงการเกม และนี่คือ 5 เหตุที่อาจบ่งบอกว่าทำไมถึงฮิดได้ขนาดนี้ ไปดูกันเลยว่ามันจะมีอะไรบ้าง
เกมเป็นกระแสไวรัลเพราะเหล่า Streamer
ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้การเล่นเกมต้องมาคู่กับคนดู การสตรีมเพื่อโชว์ความเท่, ความโหด, การสอนต่าง ๆ หรือเพื่อสร้างสีสันและมอบความสุขแก่เหล่าผู้ชม ซึ่งเกม PEAK ตอบโจทย์ตรงนี้มาก เพราะตัวเกมมีงานภาพสุดแสนจะน่ารัก มีโทนสีพาสเทลเล็กน้อย การเคลื่อนไหวที่ดูนุ่มนิ่ม พร้อมกับหน้าตาที่ดูไร้เดียงสา แค่นี้ก็ทำให้ดูตลกแล้ว บวกกับเกมที่ถูกออกแบบมาให้สามารถร่วมมือและแกล้งกันได้ ความวายป่วงจึงเกิดขึ้นได้ไม่ยากเลย
เมื่อสตรีมเมอร์ชื่อดังหยิบเกมนี้มาเล่น ก็เกิดการเป็นที่รู้จัก ผ่านหูผ่านตาผู้ชมจำนวนมาก จนสุดท้ายหลายคนก็ต้องตามเข้าไปดู และเมื่อเห็นว่าสนุกจึงเกิดการบอกต่อ นำไปสู่ความอยากที่จะเล่นเองกับเพื่อน และเกิดการซื้ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงไปยังหัวข้อถัดไป

ยอดขายพุ่งแรงแบบก้าวกระโดดก็มีส่วน
สืบเนื่องมาจากหัวข้อที่แล้ว และมองในอีกมุมหนึ่ง หากเราเป็นแค่ผู้เล่นเกมทั่วไปที่ไม่ได้ดูสตรีมเมอร์ แค่เล่นเกมที่ชอบไปเรื่อย ๆ แม้จะติดตามข่าวสารแต่อาจจะไม่มีเวลาดูมากพอ การบอกต่อถึงความสนุกที่เกิดขึ้นจึงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคนกลุ่มนี้ และสิ่งที่ยืนยันความดีงามของเกมได้นอกเหนือจากเสียงของคนอื่น ก็คือ "ยอดขาย" นั่นเองที่เป็นตัวบ่งบอกเกือบทุกอย่าง
ผู้เขียนไม่ได้จะบอกว่าเกมที่ขายดีจำเป็นต้องเป็นเกมที่ดีเสมอไป อาจจะต้องดูที่หลายปัจจัยประกอบกัน แต่ในเมื่อ PEAK มีแต่ข่าวยอดขายที่เติบโตขึ้นทุกวัน ผู้คนแห่เล่นกันอย่างล้นหลาม ทั้งหมดนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเหตุผลให้ผู้เล่นกลุ่มอื่น ๆ ตัดสินใจกระโดดเข้ามาลองเล่นนั่นเอง
ตอบรับกลุ่มผู้เล่น Hardcode และผู้เล่น Casual
เกมนี้สามารถรองรับผู้เล่นได้ทั้งสองฝั่งจริง ๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ไม่ค่อยได้เล่นเกมกับเพื่อนเท่าไหร่ และส่วนมากจะเล่นคนเดียว ซึ่งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันพอสมควร พร้อมมอบประสบการณ์การเล่นที่หลากหลาย

ถูกใจสาย Hardcode
ความยากของเกมนี้จะยากขึ้นไปเรื่อย ๆ เมื่อผู้เล่นสามารถเอาชนะเกมได้ในแต่ละครั้ง ทั้งการตกจากที่สูงแล้วเจ็บเยอะกว่าเดิม หรือแม้กระทั่งการปีนป่ายที่ใช้พลังงานเยอะขึ้น ซึ่งผู้เขียนขอเน้นไปที่การเล่นแบบ Singleplayer เป็นหลังเพราะการเล่นคนเดียวหมายถึงการต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ในเกมที่การร่วมมือถือหนึ่งใน Gameplay หลัก
- การเดินทางที่ไม่มีโอกาสได้แก้ตัว: ผู้เล่นจะต้องคำนึงถึงเส้นทางว่าทางไหนน่าจะไปได้ดีที่สุดโดยไม่อันตรายจนเกินไป เพราะถ้าพลาดตกเขาจนพลังชีวิตหมดหลอด นั่นอาจหมายถึงความตายที่ไม่มีทางแก้ไขได้
- อุปกรณ์ช่วยเหลือหรือแม้แต่อาหาร: เมื่อเล่นคนเดียว สิ่งที่จำกัดที่สุดคือช่องเก็บของ แม้จะมีกระเป๋าเสริม แต่พื้นที่ก็ยังน้อยกว่าการเล่นหลายคนแน่นอน ทำให้ผู้เล่นต้องคิดว่าจะเก็บอะไรไว้ใช้ หรือจะทิ้งอะไรไป และหากคิดจะวางของไว้ก่อนแล้วค่อยกลับมาเอา ก็ต้องทำเวลาในการวางแผนและสร้างเส้นทางให้เร็ว เพราะเกมนี้มีการจับเวลาแบบเงียบ ๆ ด้วยหมอกที่จะไล่ตามผู้เล่นหากไม่เคลื่อนไหว
- การนับเวลาในการเอาชีวิตรอด: อาจฟังดูเป็นระบบปกติ แต่มันจะมีค่ามากหากผู้เล่นเป็นนัก Speedrun ซึ่งจะกลายเป็นหลักฐานในการนำไปอวดเพื่อนๆ หรือเอาชนะตัวเอง เหมือนเป็นการตั้งชาเลนจ์เพื่อเพิ่มความสนุก (หรืออาจจะหัวร้อนก็ได้)
- ตัดหนึ่งในระบบสำคัญของเกมออกไปโดยไม่รู้ตัว: หนึ่งในระบบที่หากเล่นคนเดียวจะไม่มีทางได้ใช้อย่างแน่นอน นั่นคือระบบ 'ดึงเพื่อน' ขึ้นมาจากขอบผา
- ระบบสุ่ม หรือ RNG (Random Number Generator): เกมนี้แทบจะสุ่มทุกอย่าง ตั้งแต่แผนที่ (แม้มันจะมี Layout ที่คุ้นตา), อาหารในแต่ละพื้นที่, ไปจนถึงอุปกรณ์ช่วยปีนเขาที่บางครั้งก็สุ่มออกมาแบบวัดดวงสุดๆ เช่น กำลังหิวแต่กลับเปิดเจอแต่อุปกรณ์รัว ๆ

ถูกใจผู้เล่น Casual
แม้คอนเทนต์ในเกมส่วนใหญ๋จะมีความยากเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เกม PEAK ยังคงเป็นมิตรและสร้างที่ว่างระหว่างผู้เล่นให้ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จได้อยู่ดี
- เป็นเหมือน Social Game: ตัวเกมเน้นการเป็นพื้นที่ให้ผู้เล่นได้เข้ามาเที่ยวเล่นพูดคุยกับเพื่อนฝูง ทำให้เป้าหมายหลักคือการใช้เวลาร่วมกันอย่างสนุกสนานมากกว่าการแข่งขัน
- อิสระในการเล่น: กิจกรรมหลักอย่างการปีนเขา ถูกออกแบบมาให้เป็นทางเลือก ผู้เล่นสามารถเลือกที่จะทำหรือไม่ทำก็ได้โดยไม่มีบทลงโทษ ทำให้สามารถเล่นได้ตามใจชอบโดยไม่รู้สึกกดดัน
- ระบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน: ตัวเกมมีระบบที่ส่งเสริมให้ผู้เล่นช่วยเหลือกัน ทำให้เกมไม่ยากจนเกินไป และต่อให้เล่นไม่เก่งก็ยังสามารถสนุกไปกับเพื่อน ๆ ได้
- สร้างบรรยากาศของการพักผ่อน: ระบบการทานอาหาร และการพูดคุยในเกม ถูกออกแบบมาให้ความรู้สึกเหมือนการมาปาร์ตี้ตั้งแคมป์จริง ๆ ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสนุกสนาน
- งานออกแบบที่เข้าถึงง่าย: การออกแบบตัวละครที่น่ารัก ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเป็นมิตรและเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัยที่ไม่ได้มองหาเกมที่มีความจริงจังหรือรุนแรง
อยู่ในยุคที่เกม AAA ออกมาไม่ได้ดั่งใจ
ถือเป็นประเด็นที่ค่อนข้างใหญ่และกระทบต่อเหล่าเกมเมอร์เป็นวงกว้าง กับการที่ผู้เล่นต่างมองเหมือนกันว่าบริษัทเกมเดี๋ยวนี้ทำเกมออกมาไม่ดีเหมือนแต่ก่อน ทั้งปัญหาเกมไม่เสร็จในวันเปิดตัว, เกมพังเล่นไม่ได้, ราคาเกมที่แพงจนยากจะจับต้อง, การหลอกขายเกมที่เป็นเพียงแค่ Intro, หรือการไม่คิดนอกกรอบ สร้างแต่เกมแนวเดิมๆ เนื้อเรื่องที่แฟนเกมรับไม่ได้ รวมถึงการยัดเยียดความคิดทางการเมืองต่างๆ จนทำให้เกมที่เป็นเหมือนสนามเด็กเล่นกลายเป็นดินแดนแห่งความตึงเครียด การได้ไปเล่นเกมอินดี้ดีๆ สักเกมจึงเป็นทางเลือกที่ดี ในเมื่อผู้เล่นจำนวนมากมองว่าเกมอินดี้หลายเกมนั้นดีกว่าเกมจากค่ายยักษ์ใหญ่เสียอีก

ราคาถูกจริง ทำให้เข้าถึงง่าย
และหัวข้อสุดท้ายที่น่าจะเดากันได้ไม่ยากและคงคิดเหมือนกันว่าเกม PEAK มันราคาถูกมากเมื่อเทียบกับความรู้สึกที่ได้รับกลับมา การที่เราพยายามจะเอาตัวรอดจากเกาะ ไม่ว่าจะคนเดียวหรือกับเพื่อน การดิ้นรนเอาชีวิตรอด, ความคาดหวัง, ความผิดหวัง, ความสนุกระหว่างการเดินทาง ทั้งการร่วมมือกัน, การวางแผนที่ดี, หรือการแกล้งกันเอามันส์ ทั้งหมดนี้ถูกกลั่นออกมาเป็นรสชาติที่หลากหลายในราคาเพียงเท่านี้ มันครบรสชาติ ครบองค์ประกอบมาก จนกลายเป็นความรู้สึกฟิน หรือตามชื่อเกมเลยครับ 'PEAK' ความรู้สึกที่สูงสุด สูงลิ่วจนมันเข้าไปอยู่ในหัวใจคนทั่วโลกได้ไม่ยากเลย
และถ้าหากใครยังไม่ได้ซื้อ หรือยังลังเลอยู่ ซื้อเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน ซึ่งหากใครอยากได้ไกด์เกี่ยวกับอาหารหรืออุปกรณ์ในการช่วยเอาชีวิตรอดก็สามารถอ่านได้บนเว็บไซต์ Gamerinside ได้เลยครับ ขอบคุณทุกท่านมากที่ได้สละเวลาเข้ามามีส่วนร่วม หากมีข้อผิดพลาดประการใด ผู้เขียนขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ