Capcom ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2025) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องของบริษัท โดยทั้งยอดขายสุทธิ, กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิ ต่างก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
เว็บไซต์ GamesIndustry รายงานว่า Capcom ระบุว่าความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายเกมเก่า (Catalog Sales) ในซีรีส์หลัก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Resident Evil Village และ Resident Evil 4 ซึ่งได้รับแรงหนุนจาก "ความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเกมภาคล่าสุดในซีรีส์เดียวกันหลังจากการประกาศเปิดตัว" นั่นก็คือ Resident Evil Requiem ที่จะวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2026

นอกจากนี้ Street Fighter 6 ก็ยังคงสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการวางจำหน่ายเวอร์ชัน Nintendo Switch 2 ในเดือนมิถุนายน และ "การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการริเริ่มด้าน Esports" ซึ่งส่งผลให้ยอดขายรวมทั่วโลกของ Street Fighter 6 ทะลุ 5 ล้านชุดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในส่วนของแฟรนไชส์ Monster Hunter นั้น ยอดขายของ Monster Hunter Rise ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับความสำเร็จของ Monster Hunter Wilds ซึ่งช่วยผลักดันให้ยอดขายเกมเก่าโดยรวมของบริษัทสูงถึง 22.85 ล้านชุด แซงหน้าสถิติ 18.95 ล้านชุดในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

สรุปตัวเลขผลประกอบการที่สำคัญ (เทียบกับปีก่อนหน้า):
- ยอดขายสุทธิ: 81.2 พันล้านเยน (ประมาณ 531.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 43.9%
- กำไรจากการดำเนินงาน: 81.1 พันล้านเยน (ประมาณ 530.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 89.8%
- กำไรสุทธิ: 27.5 พันล้านเยน (ประมาณ 179.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 80.1%
Capcom ยังคงคาดการณ์ว่าผลประกอบการตลอดทั้งปีงบประมาณ (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2026) จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ที่มา GamesIndustry