ผู้สร้าง BioShock คาดไม่ถึง สตูดิโอถูกสั่งปิด หลังลาออก ชี้ Take-Two ตัดสินใจพลาด อยากให้ทีมสานต่อ

แชร์เรื่องนี้:
ผู้สร้าง BioShock คาดไม่ถึง สตูดิโอถูกสั่งปิด หลังลาออก ชี้ Take-Two ตัดสินใจพลาด อยากให้ทีมสานต่อ

Ken Levine ผู้สร้าง BioShock เปิดเผยว่าเขาต้องการให้ Irrational Games สตูดิโอผู้พัฒนา BioShock ดำเนินกิจการต่อไป และไม่ได้คาดหวังว่า Take-Two ผู้จัดจำหน่าย จะสั่งปิดสตูดิโอ หลังจากที่เขาลาออกในปี 2014=
ในตอนนั้น Levine ประกาศว่าเขาจะ "ลดขนาด" สตูดิโอ เพื่อมุ่งเน้นไปที่ "เกมประเภทที่แตกต่างออกไป" ส่งผลให้พนักงาน Irrational ทั้งหมด ยกเว้น 15 คน ถูกเลิกจ้าง

ล่าสุด ในการสัมภาษณ์กับ Edge Magazine Levine ได้เปิดเผยว่าความตั้งใจของเขาคือ ต้องการให้ Irrational ดำเนินกิจการต่อไป แต่การตัดสินใจปิดตัวนั้น "เกิดขึ้นในระดับบริหาร" Levine ได้พูดคุยเกี่ยวกับช่วงเวลาของเขาที่ Irrational หลังจากการเปิดตัว BioShock Infinite และสิ่งนี้นำไปสู่การแยกทางกับสตูดิโอ 

Ken Levine ผู้สร้าง BioShock

"การปิด Irrational เป็นเรื่องที่ซับซ้อน" เขากล่าว "ผมรู้สึกว่าตัวเอง 'ไม่ถนัด' กับบทบาทนี้ คุณเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และทันใดนั้น เมื่อวิสัยทัศน์ของคุณเพิ่มขึ้นในสิ่งที่คุณต้องการทำ คุณต้องกลายเป็นผู้จัดการ ในแบบที่คุณไม่จำเป็นต้องมีการฝึกอบรมหรือทักษะใด ๆ สุขภาพจิตของผมย่ำแย่ในช่วง Infinite ผมเครียด มีเรื่องส่วนตัวมากมายเกิดขึ้นในชีวิตของผมในตอนนั้น และพ่อแม่ของผมก็เสียชีวิต ผมทำต่อไม่ไหวแล้ว และผมไม่คิดว่าผมได้รับความเชื่อมั่นจากทีม"

BioShock Infinite

 

นั่นคือตอนที่เขาลาออก ปล่อยให้สตูดิโออยู่ในมือของ Take-Two "ดังนั้นความตั้งใจของผมคือ ไปและบอกว่า 'ดูนะ ผมแค่ต้องไปเริ่มต้นสิ่งใหม่ และ Irrational ควรดำเนินต่อไป'" เขากล่าว "นั่นคือเหตุผลที่ผมไม่ใช้ชื่อ Irrational ต่อ ผมคิดว่าพวกเขาจะดำเนินต่อไป แต่มันไม่ใช่บริษัทของผม ผมขายบริษัทไปแล้ว ดังนั้นผมจึงทำงานให้กับ Take-Two และสตูดิโอเป็นของพวกเขา"

"การตัดสินใจเกิดขึ้นในระดับบริหาร พวกเขาไม่คิดว่าพวกเขาควรดำเนินกิจการสตูดิโอต่อไป ความรู้สึกของผมคือ มันน่าจะสมเหตุสมผล Take-Two ได้รีมาสเตอร์ BioShock นั่นน่าจะเป็นเกมที่ดีสำหรับ Irrational ในการทำความเข้าใจ สร้างโครงสร้างผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ใหม่ แล้วต่อยอดจากตรงนั้น เมื่อพวกเขามีความมั่นใจที่จะทำเกม BioShock ภาคต่อไป ผมไม่คิดว่าผมอยู่ในสภาพที่จะเป็นผู้นำที่ดีให้กับทีมได้"

Levine อธิบายว่าเขาพยายามทำให้การปิดสตูดิโอ "เป็นการเลิกจ้างที่เจ็บปวดน้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้" แต่เขาไม่รู้สึกสบายใจที่จะเป็นผู้นำทีม ในเมื่อโปรเจกต์ต่อไปของเขาจะต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานในการวิจัยและพัฒนา "ปัญหาคือ และคุณจะเห็นปัญหานี้กับสตูดิโอใหญ่ ๆ คุณจะทำอย่างไรกับคน 300 คน เมื่อคุณกำลังจะมีโปรเจกต์วิจัยและพัฒนาหลายปี" เขากล่าว

ถึงกระนั้น "ทีมงานจำนวนมาก" ที่ถูกเลิกจ้าง ได้กลับมาร่วมงานในเกม BioShock ภาคใหม่ที่ยังไม่เปิดเผย
ในขณะเดียวกัน Levine จะเปิดตัว Judas ในปีนี้ กับ Ghost Story Games สตูดิโอใหม่ของเขา ซึ่งเขาเคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ว่า "สร้างขึ้นจาก 'ตัวต่อ LEGO แห่งการเล่าเรื่อง'"

Levine ยังได้พูดคุยกับ Edge เกี่ยวกับการพัฒนา BioShock Infinite ซึ่งเขาผลักดันให้เกมมี "ความเป็นแอ็กชัน" มากขึ้น นั่นนำไปสู่ Sky-Lines ซึ่งเป็นสิ่งที่เขา "อยากจะพัฒนาต่อไป" ในภาคต่อ

"ปัญหาคือ Sky-Lines มีราคาแพงมากในการสร้าง จนเราไม่สามารถสร้างพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับฟีเจอร์นี้ได้" เขากล่าว "ทีมงานทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการทำให้ฟีเจอร์นั้นมีชีวิต แต่มันมีน้อยเกินไปในเกมที่จะทำให้มันโดดเด่นจริงๆ"

"ถ้าเราได้ทำภาคต่อของ Infinite ผมคิดว่าผมคงจะใช้เวลากับมันมากขึ้น สิ่งนั้นถูกสร้างขึ้นบน Unreal Engine 3 ซึ่งไม่ใช่เอนจิ้นสำหรับ Outdoor Sky-Lines จึงเต็มไปด้วยการ 'ถ่มน้ำลาย เคี้ยวหมากฝรั่ง และสวดภาวนา' ผู้เล่นจะต้องประหลาดใจที่เกมถูกประกอบขึ้นด้วย 'น้ำลายและหมากฝรั่ง' มากแค่ไหน แม้แต่เกมที่ดีที่สุดที่ทำงานได้ดีจริง ๆ"

Judas ปรากฏตัวครั้งล่าสุดใน PlayStation State of Play ของ Sony เมื่อปีที่แล้ว และยังไม่มีกำหนดวางจำหน่ายที่แน่นอน นอกเหนือจากปี 2025

ที่มา : EuroGamer

แชร์เรื่องนี้:
Meltdown
Meltdown

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง