เกิดกระแสข่าวสะเทือนวงการเกมทั่วโลก เมื่อ The Wall Street Journal (WSJ) ได้รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าววงในว่า Electronic Arts (EA) บริษัทเกมยักษ์ใหญ่ กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเพื่อขายกิจการให้กับกลุ่มนักลงทุน และจะนำบริษัทออกจากตลาดหลักทรัพย์
เว็บไซต์ PC Gamer รายงานโดยอ้างอิงจาก WSJ ว่า กลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาเจรจาในครั้งนี้ประกอบไปด้วยบริษัทเอกชน Silver Lake และกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย (Public Investment Fund - PIF) โดยมูลค่าของดีลอาจสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะกลายเป็นการซื้อกิจการแบบ Leveraged Buyout ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ และอาจมีการประกาศอย่างเป็นทางการเร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
"Leveraged Buyout" คืออะไรและน่ากังวลอย่างไร? Leveraged Buyout (LBO) คือการที่ผู้ซื้อใช้ "เงินกู้" จำนวนมากมาซื้อกิจการ โดยใช้สินทรัพย์ของบริษัทที่ถูกซื้อ (ในกรณีนี้คือ EA) เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งหมายความว่าหลังจากดีลเสร็จสิ้น ภาระหนี้สินมหาศาลจะตกเป็นของบริษัทที่ถูกซื้อ (EA) ไม่ใช่ผู้ซื้อ หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้มาจ่ายหนี้ได้ทัน ก็อาจนำไปสู่การปลดพนักงานครั้งใหญ่หรือการปิดตัวลงในที่สุด เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับกรณีของร้านขายของเล่นชื่อดังอย่าง Toys R Us
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ PIF ของซาอุดีอาระเบียกำลังขยายการลงทุนในอุตสาหกรรมเกมและบันเทิงทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ก็ได้เข้าถือหุ้นในบริษัทเกมดังอย่าง Nintendo, Capcom และถือหุ้นใน EA อยู่แล้ว 10%

หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสตูดิโอและแฟรนไชส์เกมชื่อดังมากมายที่อยู่ภายใต้ชายคาของ EA ได้แก่:
- BioWare: Mass Effect, Dragon Age
- Respawn: Apex Legends, Titanfall, Star Wars: Jedi
- DICE: Battlefield, Mirror's Edge
- Maxis: The Sims
- รวมถึงแฟรนไชส์อื่น ๆ อย่าง Dead Space, Need for Speed, Skate และ Command & Conquer