หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งในแง่คำวิจารณ์และยอดขายที่ทะลุ 5 ล้านชุด หลายคนอาจจะประหลาดใจที่ได้รู้ว่าเกม RPG ฟอร์มยักษ์อย่าง Clair Obscur: Expedition 33 นั้นถูกสร้างขึ้นโดยทีมงาน Full-time เพียงประมาณ 30 คนเท่านั้น ซึ่งล่าสุดผู้กำกับของเกมก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงเคล็ดลับเบื้องหลังความสำเร็จนี้แล้ว
เว็บไซต์ TheGamer รายงานโดยอ้างอิงจากบทสัมภาษณ์กับทาง Automaton ซึ่ง Guillaume Broche ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของสตูดิโอ Sandfall Interactive ได้ยกความดีความชอบให้กับเทคโนโลยีสมัยใหม่

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่มีอยู่ (อย่าง Unreal Engine 5) มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ทีมพัฒนาขนาดเล็กอย่างเราสามารถสร้างผลงานที่ดูทัดเทียมกับทีมที่ใหญ่กว่ามากได้" Broche กล่าว "การที่สามารถปรับตัวเข้ากับวิธีการทำงานใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็วคือกุญแจสำคัญในเรื่องราวการพัฒนาของเรา
Guillaume Broche
เขายังได้อธิบายเพิ่มเติมว่า แม้สตูดิโอจะมีการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ภายนอก แต่ก็เป็นไปเพื่อ "เสริม" ส่วนที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่การจ้างทำส่วนหลักของเกมทั้งหมด "ตัวอย่างเช่น การทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ด้านการแปล ช่วยให้เราสามารถแปลเกมได้หลายภาษากว่าที่เราจะทำเองได้ไหว" (ซึ่งรวมถึงภาษาไทยที่จะเพิ่มเข้ามาในอัปเดตฟรีครั้งต่อไป) "หรือการทำงานร่วมกับวงออร์เคสตราเพื่อบันทึกเสียงประกอบ ก็ช่วยให้เราสร้างเสียงที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เราจะทำได้เอง"
สิ่งที่น่าสนใจคือ Broche เชื่อว่าต่อให้มีทีมงานขนาดใหญ่กว่านี้ ตัวเกมหลักที่ออกมาก็จะไม่แตกต่างไปจากเดิม "ผมคิดว่ากระบวนการพัฒนาหลัก, เรื่องราวที่เราอยากจะเล่า, ระบบที่เราอยากจะสร้าง ทั้งหมดนี้จะยังคงเหมือนเดิมไม่ว่าทีมจะมีขนาดเท่าไหร่ก็ตาม" เขากล่าว ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของทีมงาน

เรื่องราวของ Sandfall Interactive ถือเป็นกรณีศึกษาที่ยอดเยี่ยมของการพัฒนาเกมในยุคปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นว่าทีมงานอินดี้ขนาดเล็กก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกได้ หากมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและรู้จักใช้ประโยชน์จากเครื่องมือที่ทรงพลังอย่าง Unreal Engine 5
ที่มา TheGamer