อดีตผู้เขียน Dragon Age ชี้ Baldur's Gate 3 และ Expedition 33 พิสูจน์ค่ายเกมคิดผิดเรื่องศักยภาพ RPG

แชร์เรื่องนี้:
อดีตผู้เขียน Dragon Age ชี้ Baldur's Gate 3 และ Expedition 33 พิสูจน์ค่ายเกมคิดผิดเรื่องศักยภาพ RPG

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน David Gaider อดีตหัวหน้าฝ่ายเนื้อเรื่องของซีรีส์ Dragon Age ได้กล่าวยกย่องเกม Clair Obscur: Expedition 33 ว่าเป็นสำหรับเกมแนว JRPG ในลักษณะเดียวกับที่เกม Baldur's Gate 3 เป็นสำหรับเกมแนว CRPGs ความคิดเห็นดังกล่าวของเขาได้จุดประกายให้เกิดการพูดคุยและรายงานข่าวอย่างกว้างขวาง ซึ่ง Gaider เองก็ประหลาดใจกับกระแสที่เกิดขึ้น รวมถึงการตีความความคิดเห็นของเขาในแง่มุมต่างๆ

เพื่อทำความเข้าใจความคิดของเขาที่มีต่อแนวเกม RPG ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่เขากำลังมีความฝันที่จะสร้างเกม RPG ของตนเอง ในขณะที่สตูดิโอใหม่ของเขา Summerfall Studios กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพัฒนาเกม Malys ซึ่งเป็นเกมแนว Roguelike ที่มีกลิ่นอายของ RPG เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศเลยได้มีการติดต่อ Gaider ในรายละเอียดเพิ่มเติม

Gaider ชี้แจงว่า เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะดูแคลนหรือมองข้ามเกม JRPG แต่อย่างใด "มีหลายคนแสดงความคิดเห็นทำนองว่า 'มันมีเกม JRPG ดีๆ ออกมาเยอะมากนะ คุณดูเหมือนคนที่ไม่เคยเล่น JRPG มา 20 ปีเลย'" เขากล่าวถึงการตอบรับบางส่วน "ไม่เลยครับ ผมเล่นมาตลอด และผมคิดว่าพวกเขาก็ค่อนข้างจะสม่ำเสมอในสิ่งที่พวกเขาทำ มีเกมดีๆ ออกมาจริงๆ เช่น Metaphor: ReFantazio ก็เป็นตัวอย่างล่าสุดของ JRPG ที่ยอดเยี่ยมมาก"

Metaphor: ReFantazio

 

สิ่งที่ Gaider ตั้งใจจะสื่อ เขอธิบายว่า ทั้ง Baldur's Gate 3 และ Expedition 33 "ต่างก็เป็นเหมือนจดหมายรักถึงแนวเกมของตนเอง ซึ่งช่วยให้สิ่งที่พวกเขาสร้างสรรค์ขึ้นสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่กว้างกว่าปกติที่แนวเกมนั้นๆ จะสามารถทำได้โดยทั่วไป"

มีการพูดคุยกันถึงประเด็นที่ว่า ในช่วงที่กระแสความนิยมของ Baldur's Gate 3 ถึงขีดสุด เกมนี้กลายเป็นเกมที่ทุกคนต้องเล่น แม้แต่ในกลุ่มคนและชุมชนที่ปกติอาจจะไม่เคยให้ความสนใจเกม CRPG แบบ D&D ที่มีความซับซ้อนสูงเลยก็ตาม นั่นเป็นเพราะคุณภาพของตัวเกมที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้จะไม่ใช่แนวที่ชอบ แต่ก็สามารถเปลี่ยนใจผู้เล่นได้ ด้วยการนำเสนอที่สมจริงและยอดเยี่ยม รวมถึงเอกลักษณ์ด้านแอ็คชันที่โดดเด่น อาจกล่าวได้ว่า Expedition 33 ก็สร้างผลกระทบที่คล้ายคลึงกันสำหรับเกมแนว Turn-based กลายเป็นเกมใหม่ที่ร้อนแรง แม้กระทั่งนอกกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบ JRPG โดยเฉพาะ

"ยอดขายของ BG3 นั้นน่าทึ่งมาก" Gaider กล่าวต่อ "และมันค่อนข้างจะพิสูจน์ว่าสิ่งที่เคยเชื่อกันนั้นไม่เป็นความจริง ผมจำได้ว่าสมัยที่ผมยังทำงานอยู่ที่ EA มีการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากว่ากลุ่มผู้เล่น RPG นั้นมีขนาดใหญ่เพียงใด และกลุ่มผู้เล่นเกมแอ็คชันมีขนาดใหญ่แค่ไหน และอื่นๆ พวกเขาจะมีตัวเลขประมาณการออกมาแล้วบอกว่ามันมีเพดานสูงสุดอยู่ที่ โอ้ กลุ่มผู้เล่น RPG มีเพดานสูงสุดประมาณ 5 ล้านคน แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่เป็นความจริงเลยเมื่อเกมมันออกมาดีจริงๆ"

Baldur's Gate 3

 

ไม่ทราบว่าปัจจุบัน EA มีมุมมองต่อตลาดเกม RPG อย่างไร แต่เมื่อช่วงต้นปีนี้ 2025 ผู้จัดจำหน่ายรายนี้ได้เคยกล่าวอย่างชัดเจนว่าเกม Dragon Age: The Veilguard ไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในวงกว้างได้เพียงพอ ซึ่งมุมมองดังกล่าวดูจะสอดคล้องกับการประเมินของ Gaider เกี่ยวกับการประเมินของ EA ในอดีต

ในอุตสาหกรรมวิดีโอเกมที่กำลังดิ้นรนกับการสร้างความพึงพอใจให้ผู้เล่นและการบรรลุเป้าหมายยอดขาย ท่ามกลางงบประมาณการพัฒนาที่บานปลาย การแข่งขันที่สูงขึ้น และความคิดสร้างสรรค์ที่ดูเหมือนจะซบเซาลง Expedition 33 ได้กลายเป็นเสมือนกรณีศึกษาที่โดดเด่นนั่นคือ ทีมงานขนาดเล็กที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสำเร็จรูปที่มีอยู่ทั่วไป และการจ้างงานภายนอก อย่างกว้างขวาง เพื่อนำแนวคิดที่ดีมาทำให้เป็นจริงได้โดยไม่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลหรือเต็มไปด้วยคุณสมบัติที่มากเกินความจำเป็น ประสิทธิผลของแนวทางการพัฒนานี้สำหรับผู้พัฒนารายอื่นอาจยังเป็นที่ถกเถียงได้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาจนถึงขณะนี้ก็ชัดเจนในตัวเองแล้ว การทำตามคำแนะนำของ Swen Vincke ผู้กำกับ Baldur's Gate 3 ซึ่งเคยกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับปรัชญาการสร้างเกมที่เน้นความรักในตัวเกมและความเคารพต่อผู้เล่นและทีมงาน อาจไม่ได้รับประกันความสำเร็จเสมอไป แต่การไม่ทำตามนั้นดูเหมือนจะยิ่งนำไปสู่ผลงานที่ไม่โดดเด่นมากขึ้นเรื่อยๆ

Dragon Age: The Veilguard

ที่มา gamesradar

แชร์เรื่องนี้:
Badeedooboy
Badeedooboy

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง