Apple ได้เปิดเผยความพยายามครั้งใหม่ในการสร้างรายได้จากการขายแอป พร้อมกับหลีกเลี่ยงกฎหมายของสหภาพยุโรป (EU) ด้วยการนำเสนอทางเลือกค่าคอมมิชชันแบบใหม่สำหรับนักพัฒนา
ตามรายงานจากเว็บไซต์ PC Gamer ซึ่งอ้างอิงข้อมูลจาก The Verge ระบุว่า กลยุทธ์ใหม่นี้ได้ถูกประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยจะมีการเปลี่ยนแปลงค่าธรรมเนียมบริการของร้านค้า ไปสู่ระบบใหม่ที่จะจำกัดฟีเจอร์ที่นักพัฒนาสามารถเข้าถึงได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่พวกเขาตัดสินใจจะจ่ายให้กับ Apple
โครงสร้างค่าธรรมเนียมใหม่:
- ระดับที่ 1: นักพัฒนาจะจ่ายค่าคอมมิชชัน 5% จากการซื้อภายในแอปทั้งหมด ซึ่งจะทำให้พวกเขาเข้าถึงฟีเจอร์พื้นฐานของแอปได้ เช่น รีวิว, ข้อมูลความเป็นส่วนตัว, และการเข้าถึง Apple Support บางส่วน
- ระดับที่ 2: เป็นตัวเลือกเดียวที่มีในตอนนี้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสองเท่าของระดับแรกคือ 13% และคาดว่าจะเป็นตัวเลือกที่นักพัฒนาส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ และจะถูกเลือกเป็นค่าเริ่มต้น

นอกจากนี้ Apple ยังได้เปิดตัวค่าธรรมเนียมใหม่อีกหนึ่งอย่างคือ Core Technology Commission ซึ่งจะอนุญาตให้ Apple สามารถเก็บโบนัส 5% จากการซื้อใดๆ ที่เกิดขึ้น ภายนอก App Store แต่มาจากลิงก์ภายในแอป
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เป็นการตอบสนองต่อค่าปรับมูลค่า 570 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 20,900 ล้านบาท) ที่ Apple เพิ่งเผชิญจากการปฏิบัติแบบ anti-steering ซึ่งเป็นการจำกัดความสามารถของนักพัฒนาในการนำผู้บริโภคไปยังช่องทางการชำระเงินทางเลือกอื่น
อย่างไรก็ตาม Tim Sweeney หัวหน้าของ Epic Games ซึ่งมีประวัติการต่อสู้ทางกฎหมายกับ Apple มาอย่างยาวนาน ก็ไม่คิดว่าแผนการนี้จะส่งผลดี โดยกล่าวว่าแผนการใหม่นี้ "ผิดกฎหมายอย่างชัดเจนทั้งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา"
ขณะนี้ต้องรอให้คณะกรรมาธิการของ EU ทำการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงที่เสนอโดย Apple ก่อนที่จะมีการตัดสินใจต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ Apple อาจจะต้องเผชิญกับค่าปรับเพิ่มเติมอีก นอกเหนือจากค่าปรับเดิมที่ยังไม่ได้ชำระ