เนื้อหาใหญ่ที่ถูกอัปเดตเข้ามา
หลังจากที่ Path of Exile 2 ได้ปรับเปลี่ยนแผนการเพิ่มคอนเทนต์จากได้เนื้อหา 1 ก้อนแล้วก็ปล่อย กลายเป็นการอัปเดทุก ๆ 4 เดือนเพื่อสลับกับ Path of Exile 1 ที่เคยเกิดปัญหาไม่มีคอนเทนต์มาเป็นเวลานานเกินไป และการกลับมาของครั้งนี้ Rise Of The Abyssal ถือเป็นก้าวคำคัญที่จะให้ดึงผู้เล่นกลับมาได้ไหม หลังจากหายไปเยอะ
ประกาศสำคัญ: เปิดให้เล่นฟรีสุดสัปดาห์ และยกเลิกระดับความยาก Cruel
- Free Weekend: Path of Exile 2 จะเปิดให้ทุกคน เล่นฟรีโดยไม่ต้องใช้คีย์ Early Access เป็นครั้งแรกในช่วงสุดสัปดาห์ของการเปิดตัวอัปเดต The Third Edict (เริ่มต้น 29 สิงหาคม - 1 กันยายน)
- ยกเลิก Cruel Difficulty: ด้วยเนื้อหาแคมเปญที่ยาวขึ้น ทำให้การเล่นซ้ำในระดับความยาก Cruel ถูกนำออกไป ผู้เล่นจะเข้าสู่ Endgame ได้เร็วขึ้น

เนื้อหาแคมเปญใหม่: Act 4 และ The InterludesAct 4 - The Karui Archipelago:
- Act 4 - The Karui Archipelago:
- เนื้อเรื่อง: ผู้เล่นจะเดินทางสู่หมู่เกาะคารุย บ้านเกิดของชนเผ่าคารุย เพื่อตามหาชิ้นส่วนของอาวุธโบราณตามคำแนะนำของ Doryani
- Non-linear Gameplay: Act 4 จะไม่เป็นเส้นตรงโดยสมบูรณ์ ผู้เล่นสามารถเลือกสำรวจเกาะทั้ง 8 เกาะในลำดับใดก็ได้ เช่น เกาะ Whakapanu ที่มีคำสาปลึกลับ หรือเกาะภูเขาไฟ Isle of Kin
- สเกล: เพิ่มมอนสเตอร์ใหม่กว่า 100 ชนิด, 16 พื้นที่ใหม่, และ 12 บอสใหม่
- The Interludes - 3 องก์เสริมชั่วคราว:
- เป็นเนื้อเรื่องเสริม 3 บทที่จะพาผู้เล่นจาก Act 4 ไปสู่ Endgame ที่เลเวล 65 และจะถูกนำออกไปเมื่อ Act 5 และ 6 มาถึง
- Interlude 1 (Ogham): กลับไปช่วยเหลือ Renly ปกป้องหมู่บ้าน Ogham จากความมืดปริศนาที่เข้าครอบงำเมือง Holten ที่อยู่ใกล้เคียง
- Interlude 2 (Vastiri Desert): ช่วยเหลือ Asala ในการทำพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ Gifting of Water และตามหาผู้พิทักษ์ Sel Khari ที่หายตัวไป
- Interlude 3 (Mountain Vault): เดินทางขึ้นภูเขาน้ำแข็งตามแผนของ Doryani เพื่อค้นหาลูกหลานชาว Vaal ที่อาจรอดชีวิตจากภัยพิบัติในห้องนิรภัยโบราณ
- สเกล: ทั้ง 3 บทนี้จะเพิ่มพื้นที่ใหม่อีกประมาณ 35 แห่ง และบอสใหม่อีก 24 ตัว

การเปลี่ยนแปลงเกมเพลย์และระบบตัวละคร
- Sprint: เพิ่มระบบวิ่งเร็วเข้ามา ทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้นโดยการกดปุ่ม Dodge Roll ค้างไว้ แต่จะล้มลงหากถูกโจมตีขณะวิ่ง
- ยกเครื่องระบบ Support Gem ครั้งใหญ่:
- ยกเลิกข้อจำกัด: ผู้เล่นสามารถใช้ Support Gem ชนิดเดียวกันซ้ำกันกี่เม็ดก็ได้ในบิลด์เดียว เช่น บิลด์พิษสามารถใช้ Stacking Poison กับหลายๆ สกิลได้แล้ว
- ระบบ Tiers: Support Gem จะมีหลายระดับ (Tier 1-3) โดยในระดับสูงขึ้นจะมอบเอฟเฟกต์ที่ทรงพลังหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- ตัวอย่าง: Rapid Casting Tier 1-2 เพิ่ม Cast Speed แต่ Tier 3 จะเปลี่ยนเป็นเพิ่ม Cast Speed 10% ต่อแต่ละคาถาที่ใช้ในช่วง 8 วินาทีที่ผ่านมา
- Lineage Supports: เปรียบเสมือน Support Gem ระดับ Unique ที่หาได้เฉพาะช่วง Endgame มีประมาณ 40 ชนิด และมีความสามารถที่เปลี่ยนแปลงสกิลไปอย่างสิ้นเชิง
- ตัวอย่าง: Ratha’s Assault (อัปเกรดจาก Double Barrel) จะทำให้สกิลรีโหลดได้ก็ต่อเมื่อผู้เล่น Dodge Roll เท่านั้น
- การปรับสมดุลคลาสครั้งใหญ่:
- Ranger: ปรับปรุงสกิลสายน้ำแข็งครั้งใหญ่ เพิ่มสกิลและซัพพอร์ตที่เกี่ยวข้องกับ "Ice Fragments" และเพิ่มระบบป้องกันใหม่ "Deflect" สำหรับสาย Dex ที่ช่วยลดความเสียหาย 40% จากการโจมตีทุกรูปแบบ
- Warrior: บัฟสกิลสายไฟครั้งใหญ่ เพิ่มสกิลใหม่ Forge Hammer ที่สามารถคอมโบกับ Warcry ได้ และสกิล Glory ใหม่ Ancestral Cry ที่จะเปลี่ยนการโจมตีทั้งหมดให้เป็นไฟ, ปรับปรุงสกิลโล่โดยยกเลิก Cooldown ของ Shield Charge
- Mercenary: ปรับปรุงให้การคอมโบสกิลดีขึ้นโดยเพิ่มระยะเวลาของ Shock และ Chill เป็น 8 วินาที และเพิ่มสกิลใหม่ Mortar Cannon ที่สามารถใส่สกิลระเบิด (Grenade) ใดก็ได้เข้าไป
- Witch: ทำให้ Minion สายต่อสู้ประชิดมีประโยชน์มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้ค่า Accuracy, เพิ่ม Command Skill ใหม่ให้ Brute และ Frost Mage, บัฟ Raise Spectre ครั้งใหญ่, และ Ascendancy Blood Mage จะได้รับ Sanguimancy ฟรีตั้งแต่ต้น
- Monk: ปรับปรุงสกิลสายลมให้ใช้งานง่ายและทรงพลังขึ้น, เพิ่ม Keystone "Hollow Palm Technique" ที่ทำให้สามารถใช้สกิลของ Quarterstaff ได้แม้ไม่มีอาวุ
- Sorceress: ปรับปรุงให้สามารถเล่นหลายธาตุพร้อมกันได้ง่ายขึ้น (เช่น เปลี่ยน Curse แยกธาตุเป็น Curse รวมธาตุ), ยกเลิกดีเลย์การสลับอาวุธ, และเพิ่มระบบใหม่ "Elemental Infusions" ที่ทำให้สกิลเปลี่ยนแปลงไปตามธาตุที่เก็บได้

ลีกใหม่: Rise of the Abyssal
- กลไกหลัก: ผู้เล่นจะพบรอยแยก (Fissure) บนพื้นดิน เมื่อกำจัดมอนสเตอร์ใกล้ๆ จะมีมอนสเตอร์จากเผ่า Abyssal ปรากฏตัวขึ้นมา เมื่อปิดรอยแยกทั้งหมด "หลุม" (Pit) จะเปิดออกและมีมอนสเตอร์จำนวนมากออกมาให้ต่อสู้
- Abyssal Modifiers: มอนสเตอร์ Abyssal สามารถดูดซับ Modifiers จากมอนสเตอร์ Rare ที่ผู้เล่นเพิ่งฆ่าไป และอัปเกรดให้กลายเป็นเวอร์ชัน Abyssal ที่อันตรายและให้รางวัลดีขึ้น
- การคราฟต์และ Endgame: ลีกนี้มาพร้อมระบบคราฟต์ใหม่ที่ Well of Souls, ดันเจี้ยนใต้ดิน Abyssal Depths, บอสใหญ่ 4 ตัว, และของรางวัล Unique/Lineage Supports เฉพาะของลีก

ยกเครื่อง Endgame, การคราฟต์, และระบบเทรด
- Endgame Atlas:
- เพิ่มแผนที่ Endgame ใหม่ 25 แผนที่
- เพิ่มกลไกใหม่บน Atlas ที่ใช้บอสจาก Act 4 และ Interludes
- ปรับปรุงระบบ Affix ของ Waystone ให้มีความท้าทายและคุ้มค่ามากขึ้น คล้ายกับใน Path of Exile 1
- ปรับปรุงการเข้าถึง Pinnacle Content ให้ง่ายขึ้นโดยใช้ Splinters แทนกุญแจเต็มใบ
- ระบบคราฟต์:
- ปรับปรุง Essences ให้ใช้งานได้ดีขึ้นและมีหลายระดับ
- เพิ่ม Orb ระดับสูง (Greater/Perfect Orb) สำหรับการคราฟต์ไอเทม endgame
- เพิ่ม Exceptional Items ซึ่งเป็นเบสไอเทมคุณภาพสูงสำหรับคราฟต์
- เพิ่ม Omen ใหม่ๆ และ Hinekora’s Lock ที่ทำให้เห็นผลลัพธ์ของการคราฟต์ล่วงหน้าได้
- ระบบเทรดใหม่ (Asynchronous Trade):
- การเปลี่ยนแปลงที่แฟน ๆ รอคอยมากที่สุด! ผู้เล่นจะสามารถตั้งขายไอเทมผ่าน NPC ที่ชื่อ Ange ใน Hideout ของตัวเองได้
- ผู้ซื้อสามารถเข้ามาซื้อของจากร้านค้าของผู้ขายได้ แม้ว่าผู้ขายจะออฟไลน์อยู่ก็ตาม
- ระบบนี้จะช่วยลดปัญหาการรอคอยและการติดต่อผู้ขายที่ยุ่งยากใน Path of Exile 1 ลงอย่างสิ้นเชิง

การอัปเดต The Third Edict ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ส่งผลต่อทุกส่วนของ Path of Exile 2 และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมพัฒนาในการรับฟังความคิดเห็นของผู้เล่นและพัฒนาเกมให้ดียิ่งขึ้นไปอีกขั้น