Hands-on: Dying Light - The Beast สัมผัสแรกกับอสูรร้ายในตัว Kyle Crane ที่งาน gamescom 2025

แชร์เรื่องนี้:
Hands-on: Dying Light - The Beast สัมผัสแรกกับอสูรร้ายในตัว Kyle Crane ที่งาน gamescom 2025

การกลับมาของซีรีส์ฟรีรันนิ่งฝ่าดงซอมบี้ที่หลายคนรอคอย! Dying Light - The Beast ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติโปแลนด์อย่าง Techland ที่เคยสร้างชื่อมาจากเกม Dead Island และต่อยอดจนทำให้ Dying Light กลายเป็นเกมในดวงใจของใครหลายคน และการรอคอยก็ใกล้จะสิ้นสุดลง เมื่อภาคต่อกำลังจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ พร้อมกับการกลับมาของตัวละครที่แฟนๆ คิดถึงอย่าง 'ไคล์ เครน' (Kyle Crane)

โชคดีที่ในงาน gamescom 2025 ที่ผ่านมา ณ ประเทศเยอรมนี ผมมีโอกาสได้สัมผัสตัวเกมแบบสั้นๆ และนี่คือความประทับใจแรกในฐานะแฟนเกมที่ติดตามมาทุกภาค

การกลับมาของ Kyle Crane และสมรภูมิในร่างอสูร

เนื้อหาในภาคนี้จะสานต่อเรื่องราวของ 'ไคล์ เครน' (Kyle Crane) ตัวเอกขวัญใจจาก Dying Light ภาคแรก หลังจากที่เขาติดเชื้อไวรัสในภาคเสริม The Following เขาถูกจับตัวไปโดยวายร้ายนามว่า 'เดอะ บารอน' (The Baron) และต้องทนทุกข์กับการทดลองอันโหดร้ายนานหลายปี

บัดนี้ เครนได้หลบหนีออกมาสำเร็จ แต่สงครามที่แท้จริงกลับเพิ่งเริ่มต้นขึ้นภายในร่างกายของเขาเอง... การต่อสู้กันระหว่าง DNA ของมนุษย์และซอมบี้ ทำให้เขาต้องดิ้นรนเพื่อควบคุม 'อสูรร้าย' ในตัว ก่อนจะออกเดินทางเพื่อล้างแค้นคนที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพนี้

ฉากหลังของเรื่องราวจะเกิดขึ้นในดินแดนแห่งใหม่ที่เรียกว่า 'คาสเตอร์วูดส์' (Castor Woods) ซึ่งเต็มไปด้วยสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เมืองท่องเที่ยว เขตอุตสาหกรรม หรือหนองบึงที่น่าสะพรึงกลัว

เกมเพลย์ที่คุ้นเคย และพลังอสูรที่เพิ่มมิติใหม่

แก่นของระบบการเล่นยังคงเป็นสิ่งที่แฟนๆ คุ้นเคยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการปีนป่ายผาดโผน, การต่อสู้ระยะประชิด, ระบบการสร้างของ (Crafting) หรือศัตรูประเภทต่างๆ เรียกได้ว่าใครที่เคยสัมผัสสองภาคแรกมาแล้ว สามารถกระโดดเข้ามาเล่นภาคนี้ต่อได้อย่างไร้รอยต่อ

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาเป็นหัวใจสำคัญของภาคนี้คือ ระบบแปลงร่างเป็นอสูร (Beast Mode) โดยเมื่อเรากำจัดศัตรูอย่างต่อเนื่อง เกจพลังจะค่อยๆ สะสมจนเต็ม เมื่อเปิดใช้งาน ไคล์ เครน จะกลายร่างเป็นอสูรร้ายที่ทรงพลัง โจมตีได้อย่างรุนแรงและมีความทนทานสูงขึ้นเป็นเวลาจำกัด

ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะใจในการต่อสู้ แต่ยังเพิ่มมิติทางกลยุทธ์ให้ผู้เล่นต้องคิดวิเคราะห์ว่าจะใช้พลังนี้เมื่อไหร่เพื่อพลิกสถานการณ์ให้เป็นใจ

ความประทับใจแรกและภาพรวม

สำหรับเมืองใหม่อย่าง Castor Woods ให้ความรู้สึกคล้ายกับเมือง Villedor จากภาค 2 แต่ยังไม่เสื่อมโทรมเท่า ซึ่งสอดคล้องกับไทม์ไลน์ของเกมที่น่าจะเกิดขึ้นก่อนภาค 2 ทำให้เรายังพอได้เห็นอาวุธหรือยานพาหนะอย่างรถยนต์ให้ใช้งานอยู่บ้าง

ในด้านกราฟิก แม้จะไม่ได้ก้าวกระโดดจากภาคก่อนหน้าอย่างชัดเจน แต่ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดูดียิ่งขึ้น สิ่งที่น่าประทับใจเป็นพิเศษคือการแสดงสีหน้าของตัวละครระหว่างบทสนทนาที่มีชีวิตชีวาและสื่ออารมณ์ได้ดีกว่าภาค 2 อย่างเห็นได้ชัด

แม้จะเป็นการทดลองเล่นในเวลาจำกัด แต่ก็พอจะสรุปได้ว่า Dying Light - The Beast ยังคงรักษามาตรฐานและเสน่ห์ของซีรีส์ไว้ได้อย่างครบถ้วน

คำถามคือคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่? สำหรับแฟนเดนตายของซีรีส์นี้ บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะหัวใจหลักของเกมอย่างระบบฟรีรันนิ่งที่ลื่นไหลและการต่อสู้ที่ดุเดันยังคงทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ผสมเข้ากับเรื่องราวการกลับมาของตัวละครเอกที่ทุกคนรักและระบบใหม่ที่น่าสนใจ ทำให้เกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในช่วงปลายปี 2025

แชร์เรื่องนี้:
Worrapol T.
Worrapol T.

Content Writer

เรื่องที่เกี่ยวข้อง