สตูดิโอ id Software กำลังจะพาผู้เล่นย้อนกลับไปสัมผัสเรื่องราวก่อนหน้าเหตุการณ์ในเกม DOOM ฉบับรีบูตปี 2016 ผ่านผลงานใหม่ล่าสุด DOOM: The Dark Ages นอกเหนือจากการนำเสนอเนื้อเรื่องภูมิหลังของตัวละคร Slayer แล้ว ตัวเกมยังมีการปรับปรุงระบบการต่อสู้ครั้งสำคัญ โดยจะเน้นรูปแบบการต่อสู้ที่ดูหนักแน่นสมจริงมากขึ้น มีการเพิ่มระบบการปัดป้อง และที่สำคัญคือการเปลี่ยนแปลงระบบ Glory Kill อันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์
ระบบ Glory Kill ในเกม DOOM: The Dark Ages จะมีความแตกต่างจากภาคก่อนๆ โดยจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบไม่ซิงค์ ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นจะสามารถดำเนินการสังหารศัตรูต่อเนื่องกันได้อย่างลื่นไหลและรวดเร็วยิ่งขึ้น แทนที่จะถูกขัดจังหวะด้วยอนิเมชันการสังหารที่ต้องเล่นจนจบในแต่ละครั้งสำหรับศัตรูแต่ละตัว
Hugo Martin ผู้กำกับเกมจาก id Software ได้อธิบายถึงเหตุผลเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงนี้ผ่านคลิปวิดีโอ Hugo Reacts ล่าสุดที่เผยแพร่ทาง Twitter เขากล่าวว่า แนวคิดนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ในเกมภาคนี้จะมีจำนวนศัตรูปรากฏบนหน้าจอพร้อมกันในแต่ละฉากมากกว่าภาคก่อนๆ การที่ผู้เล่นจะต้องกดใช้ท่าสังหาร Glory Kill ซึ่งมีอนิเมชันแบบบังคับเล่นจนจบกับศัตรูทุกตัวนั้น อาจจะกลายเป็นประสบการณ์ที่ซ้ำซากและน่าเบื่ออย่างยิ่งยวดได้
Martin ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภาพยนตร์เรื่อง 300 ของผู้กำกับ Zack Snyder ถือเป็นจุดอ้างอิงสำคัญในการออกแบบลำดับการสังหาร Glory Kill แบบต่อเนื่องหลายครั้ง เขากล่าวเสริมว่า ทีมงานได้สร้างชุดของอนิเมชันการโจมตีระยะประชิดที่มีความหลากหลายสำหรับใช้งานในระบบ Glory Kill ซึ่งท่าทางสังหารที่ปรากฏออกมานั้นอาจมีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอาวุธที่ผู้เล่นกำลังใช้งานและประเภทของศัตรูที่ถูกสังหาร
เป้าหมายหลักของการปรับปรุงระบบ Glory Kill ในครั้งนี้ คือเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกซ้ำซากจำเจจากการเห็นอนิเมชั่นรูปแบบเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา และในขณะเดียวกันก็เพื่อให้ผู้เล่นสามารถควบคุมตัวละครและดำเนินจังหวะการต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่องและมีความลื่นไหลมากยิ่งขึ้น
เกม DOOM: The Dark Ages มีกำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2025 สำหรับแพลตฟอร์ม Xbox Series X/S, PS5 และ PC ผู้ที่ทำการสั่งซื้อเกมล่วงหน้าจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าเล่นเกมก่อนเป็นเวลา 2 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม
ที่มา gamingbolt
