Mark Darrah อดีตผู้อำนวยการผลิต ผู้ดูแลซีรีส์ Dragon Age มาอย่างยาวนาน ได้เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ท้าทายในการพัฒนาเกม Dragon Age: The Veilguard โดยระบุว่า เขารู้สึกว่าทีมงานพัฒนาไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอจากทั้งบริษัท Electronic Arts และสตูดิโอ BioWare ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนาช่วงแรกเริ่ม
อดีตผู้พัฒนาของ BioWare ท่านนี้ ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับประสบการณ์ดังกล่าวผ่านวิดีโอที่เผยแพร่บนช่อง YouTube ส่วนตัวเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมุ่งเน้นไปที่เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดปี 2017 ซึ่ง Darrah ยกให้เป็น "ช่วงเวลา 12 เดือนที่ส่งผลกระทบมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ BioWare" เขากล่าวถึงการตัดสินใจหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาในช่วงเริ่มต้นของเกม Dragon Age ภาคล่าสุด และชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของการเปลี่ยนแปลงทัศนคติภายในองค์กรกับช่วงสุดท้ายของการพัฒนาเกม Mass Effect: Andromeda
เรื่องราวเริ่มต้นในช่วงปลายปี 2016 เมื่อ Darrah ซึ่งขณะนั้นดูแลทีม Dragon Age ถูกโยกย้ายให้ไปช่วยควบคุมการพัฒนาในช่วงสุดท้ายของเกม Mass Effect: Andromeda เขากล่าวว่า "ความรู้สึกของผมในตอนนั้น คือทีมงาน Dragon Age รู้สึกเหมือน ถูกละเลย ไม่ได้รับการเหลียวแล และขาดการสนับสนุนจากทั้ง BioWare และ EA" ความคาดหวังในขณะนั้นคือ การที่ Darrah เข้าไปช่วยเร่งให้โครงการ Andromeda เสร็จสิ้น จะช่วยให้ทรัพยากรต่างๆ ถูกจัดสรรกลับมายังโครงการ Dragon Age ได้มากขึ้น แต่ในความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
Darrah อธิบายเพิ่มเติมว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่เราประสบกับภาวะที่ผู้นำโครงการขาดความต่อเนื่อง กล่าวคือ บุคคลที่รับผิดชอบโครงการหนึ่ง ถูกย้ายไปช่วยเหลือโครงการอื่น ในขณะที่โครงการเดิมยังคงต้องดำเนินต่อไป" แม้ว่าผลกระทบโดยตรงต่อโครงการ Dragon Age ในครั้งนั้นอาจจะไม่ยาวนานนัก แต่มันได้สร้างบรรทัดฐานที่ไม่เหมาะสมขึ้น ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นแนวทางปฏิบัติที่อันตรายอย่างยิ่งต่อโครงการที่ต้องดำเนินงานต่อไปโดยขาดผู้นำหลัก
เกม Mass Effect: Andromeda วางจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2017 และตามคำกล่าวของ Darrah ผลตอบรับที่ออกมาไม่สู้ดีนัก ในช่วงเวลาดังกล่าว BioWare ยังอยู่ในระหว่างการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร ซึ่งทำให้ต้องรายงานตรงต่อผู้บริหารชุดใหม่ของ EA ที่ในตอนแรกแสดงท่าทีให้ความสนใจอย่างยิ่งยวด ต่อโครงการต่างๆ ของสตูดิโอ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ Andromeda วางจำหน่ายและไม่ประสบความสำเร็จตามคาด ผู้บริหารชุดใหม่กลับแสดงท่าทีไม่สนใจที่จะสนับสนุนโครงการ Mass Effect ต่อไป แต่ถึงกระนั้น Darrah ก็ยังคงรู้สึกว่าโครงการ Dragon Age ไม่ได้รับการสนับสนุนที่จำเป็นอยู่ดี
เขาได้นำเสนอความกังวลดังกล่าวต่อผู้บริหารระดับสูงของ EA ในขณะนั้น ได้แก่ Andrew Wilson CEO คนปัจจุบัน และ Patrick Söderlund อดีตผู้บริหาร และได้รับการยืนยันถึงความสำคัญของแฟรนไชส์ Dragon Age ต่อบริษัท แต่ในทางปฏิบัติ EA กลับจัดสรรทรัพยากรสนับสนุนให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นในช่วงฤดูร้อนปี 2017
จากนั้น ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นเมื่อ Darrah และทีมงาน BioWare คนอื่นๆ ได้รับแจ้งอย่างกะทันหันว่า Casey Hudson ซึ่งเป็นบุคลากรอาวุโสคนสำคัญและเป็นที่นับถือของสตูดิโอ จะกลับเข้ามาร่วมงานกับ BioWare อีกครั้ง การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นโดยที่ Darrah ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นผู้บริหารที่มีอาวุโสเป็นอันดับสองของสตูดิโอ ไม่ได้รับการปรึกษาหารือหรือรับทราบข้อมูลล่วงหน้าแต่อย่างใด Darrah กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า "คุณต้องไม่ลืมว่า ผมคือบุคคลที่มีอาวุโสเป็นอันดับสองที่ BioWare ในตอนนั้น Casey ได้รับการสัมภาษณ์ ว่าจ้าง และเตรียมการให้กลับเข้ามาทำงานทั้งหมด โดยที่ผมไม่ได้รับการปรึกษาหารือใดๆ เลย การตัดสินใจในเรื่องที่ส่งผลกระทบมากขนาดนี้ โดยไม่ให้ผู้บริหารอาวุโสอันดับสองของสตูดิโอมีส่วนร่วมเลยนั้น ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันอย่างมหาศาล"
ในเวลานั้น Darrah คาดการณ์ว่า ทิศทางของสตูดิโอจะหันไปให้ความสำคัญกับโครงการเกม Anthem มากขึ้น และเมื่อเขานำเสนอความกังวลนี้ต่อผู้บริหาร EA ก็ได้รับคำตอบว่า โครงการ Dragon Age จะยังคงได้รับความสนใจตามที่สมควรได้รับ แต่ Darrah กล่าวเสริมว่า "อย่างที่เราทุกคนทราบกันดี นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย"
ความสนใจของ EA ที่มีต่อเกม Anthem ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกมเปิดตัวพร้อมกับปัญหามากมายในปี 2019 ตลอดช่วงเวลาดังกล่าว Darrah รู้สึกว่าความไว้วางใจที่เขามีต่อบริษัทนั้นถูกบั่นทอนและท้าทายอยู่ตลอดเวลา ทรัพยากรต่างๆ ถูกโยกย้ายออกจากโครงการ Dragon Age อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2019 ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในระดับรากฐานของตัวโครงการเกม ซึ่งท้ายที่สุดได้กลายมาเป็น Dragon Age: The Veilguard
เกม Dragon Age: The Veilguard ได้วางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2024 และได้รับเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกจากสื่อมวลชนหลายสำนัก อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 ทาง EA ได้ออกมาให้ความเห็นว่าการเปิดตัวของเกมนี้น่าผิดหวังเนื่องจากล้มเหลวในการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในวงกว้างได้อย่างเพียงพอ ความคิดเห็นดังกล่าวได้รับการโต้แย้งจากอดีตผู้พัฒนาของ BioWare บางส่วน ซึ่งบางคนได้เสนอแนะว่าบริษัทควรนำแนวทางการพัฒนาที่ประสบความสำเร็จของสตูดิโอ Larian ผู้สร้าง Baldur’s Gate 3 มาปรับใช้ ต่อมาในเดือนมกราคม 2025 ก็ได้มีข่าวการปรับลดพนักงานครั้งใหญ่ซึ่งส่งผลกระทบต่อทีมพัฒนา Dragon Age จำนวนมาก ในขณะที่สตูดิโอ BioWare ได้หันกลับไปให้ความสำคัญกับโครงการพัฒนาเกม Mass Effect 5 แทน
ที่มา IGN
