จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับปัญหาด้านประสิทธิภาพของเกม Borderlands 4 บน PC จนนำไปสู่ดราม่าของ Randy Pitchford ผู้บริหาร Gearbox ล่าสุด สื่อสายเทคนิคชื่อดังอย่าง Digital Foundry (DF) ได้ออกมาวิเคราะห์เจาะลึกถึงปัญหาดังกล่าว และผลที่ได้ก็ยืนยันว่าเกมมีปัญหาอยู่จริง
เว็บไซต์ IGN ได้สรุปการวิเคราะห์ของ Digital Foundry ไว้ว่า ปัญหาหลักของเกมคืออาการกระตุก หรือ Stutter ที่เกิดจากการคอมไพล์เชดเดอร์ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเกมที่ใช้ Unreal Engine แต่ใน Borderlands 4 นั้น อาการกลับหนักกว่าปกติ โดย Alex Battaglia จาก DF ระบุว่าอาการกระตุกจะเกิดขึ้นเมื่อเอนจิ้นต้องประมวลผลบางอย่างเป็นครั้งแรกในพื้นที่ใหม่ๆ เช่น การเก็บอาวุธชนิดใหม่ หรือเมื่อศัตรูมีอนิเมชันการตายแบบใหม่ ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นแม้จะทดสอบบน "CPU สำหรับเล่นเกมที่เร็วที่สุดที่หาซื้อได้ในตลาด"

John Linneman จาก DF ได้ให้ความเห็นสรุปว่า "เกมนี้ดูเหมือนจะทำงานได้แย่กว่าปกติสำหรับเกมที่ใช้ Unreal Engine 5"
นอกจากนี้ Digital Foundry ยังได้ให้คำแนะนำที่สำคัญแก่ผู้เล่น PC ว่า ไม่ควรปรับตั้งค่ากราฟิกไปที่ระดับ 'Badass' แม้ว่าสเปกคอมพิวเตอร์จะสูงพอ เพราะประสิทธิภาพที่เสียไปนั้นไม่คุ้มค่ากับคุณภาพของภาพที่เพิ่มขึ้นมาเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับระดับ 'Very High' โดย Battaglia เรียกการตั้งค่านี้ว่า "ไม่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งยวด"
ปัญหาอื่น ๆ ที่ถูกค้นพบยังรวมถึงอนิเมชันของพืชพรรณที่ดูเหมือนจะ pop-in หรือเด้งขึ้นมาอย่างผิดปกติเมื่อผู้เล่นเข้าใกล้ และฉากคัตซีนแบบเรียลไทม์ที่ถูกจำกัดเฟรมเรตไว้ที่ 30fps ซึ่งสร้างความรู้สึกติดขัดเมื่อเปลี่ยนจากเกมเพลย์ที่ลื่นไหล

แม้ว่า Gearbox จะปล่อยอัปเดตออกมาแล้ว แต่ DF ยืนยันว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาหลักได้ ในขณะเดียวกัน ทางผู้พัฒนาก็ได้ออกคู่มือการปรับตั้งค่า Nvidia บน Steam และแนะนำให้ผู้เล่น "เล่นต่อไปอย่างน้อย 15 นาทีหลังจากปรับการตั้งค่า" เพื่อให้เชดเดอร์ได้คอมไพล์ใหม่อย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะตัดสินประสิทธิภาพของเกม
ที่มา IGN และ Digital Foundry