เว็บไซต์ The Gamer รายงานว่า จากการที่ Grand Theft Auto 6 (GTA 6) มีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้า วันที่ 19 พฤศจิกายน (หลังจากการเลื่อนวางจำหน่ายอีกครั้ง) ทำให้มีเวลาเหลือเฟือที่จะถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงเรื่องที่ว่า Take-Two และ Rockstar Games จะดำเนินการในสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่เป็นที่คาดหมายกันอย่างกว้างขวางหรือไม่ นั่นคือการขาย GTA 6 ในราคาที่แพงกว่า $70
สื่อต้นทางได้ยินข้อโต้แย้งหลายประการว่าทำไม GTA 6 ถึงควรมีราคามากกว่า $70 เช่น คุณภาพของเกมและระยะเวลาหลายปีที่ใช้ในการพัฒนา ซึ่งซีอีโอของ Take-Two อย่าง Strauss Zelnick ก็ยังไม่ได้ฟันธงเรื่องราคาแต่อย่างใด ล่าสุดได้มีข้อโต้แย้งใหม่เกิดขึ้นว่าทำไม GTA 6 ถึงควรจะสวนกระแสเกมราคา $70 นั่นคือ "ความไฮป์" (Hype) ที่รายล้อมตัวเกมนั่นเอง
ในการสัมภาษณ์โต๊ะกลมใหม่ที่เผยแพร่โดย GamesIndustry เกี่ยวกับต้นทุนของวิดีโอเกมในปี 2026 และหลังจากนั้น Vic Bassey จาก Video Game Insights ยืนยันว่าหากจะมีเกมใดที่ก้าวข้ามกำแพงราคา $100 ได้ เกมนั้นก็คือ GTA 6
Bassey ระบุเจาะจงว่า มันจะเป็นการกระทำที่ "ฉลาดรอบคอบ" (Prudent) หรือชาญฉลาดสำหรับ Take-Two ที่จะดำเนินการขึ้นราคา
"เมื่อพิจารณาจากระดับของความไฮป์ที่รายล้อมตัวเกม มันจะเป็นความฉลาดรอบคอบสำหรับ Take-Two ที่จะดำเนินการขึ้นราคา แม้ว่าการไปให้ถึง $100 อาจจะเป็นเพดานที่สูงเกินไปหน่อยก็ตาม" Bassey กล่าว
ในมุมหนึ่ง Bassey มีประเด็นที่หนักแน่น น่าจะไม่มีเกมไหนในประวัติศาสตร์ที่ได้รับความสนใจมากไปกว่า GTA 6 อีกแล้ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้เล่นทั่วไป และเป็นผลให้บริษัทอาจฉวยโอกาสนี้ในการเรียกเก็บเงินมากกว่าปกติได้
ในขณะเดียวกัน Rhys Elliot จาก Alinea Analytics ก็มีข้อโต้แย้งที่ดี โดยระบุว่ารายได้ระยะยาวส่วนใหญ่ของ GTA 6 นั้นผูกติดอยู่กับ GTA Online และการสร้างกำแพงกั้นในการเข้าถึงที่สูงขึ้นจะไปกัดกินส่วนแบ่งตรงนั้น
"การจำกัดกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดที่เข้าถึงได้ในช่วงเปิดตัวด้วยราคาฐานที่สูงเกินไป จะไปขัดขวางการอพยพของผู้เล่นจาก GTA 5 ไปสู่ GTA 6 และชะลอการเติบโตของฐานผู้ใช้ GTA Online" Elliot กล่าว
นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ที่ Rockstar อาจแยกขายโหมดเนื้อเรื่องกับโหมดออนไลน์ หรือนำโหมดออนไลน์ไปผูกกับบริการสมัครสมาชิก GTA+ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ราคาขายรวมอาจจะเกิน $70 แต่ราคาแยกแต่ละส่วนอาจจะไม่ถึง ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ คงจะได้เห็นบทสนทนาแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ
ที่มา The Gamer
