เกม Clair Obscur: Expedition 33 ซึ่งเป็นผลงานเกม RPG ที่เพิ่งวางจำหน่ายและประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับการพัฒนาโดยสตูดิโออินดี้ Sandfall Interactive ล่าสุด Guillaume Broche ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของสตูดิโอ ได้เปิดเผยถึงเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจที่จะไม่ร่วมงานกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในการพัฒนาเกมนี้ โดยชี้ว่าการดำเนินงานในฐานะสตูดิโออิสระมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างบรรยากาศและวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
ในการให้สัมภาษณ์กับ Pouce Café ซึ่งเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ชาวฝรั่งเศส (ข้อมูลจากการถอดความโดย Mp1st) Broche ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมาก่อตั้งสตูดิโอ Sandfall Interactive เขาเคยมีประสบการณ์ทำงานที่บริษัท Ubisoft ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายพัฒนาแบรนด์และหัวหน้าฝ่ายเนื้อเรื่อง แต่ท้ายที่สุดได้ตัดสินใจลาออกมาเพื่อก่อตั้งสตูดิโอของตนเอง และมุ่งมั่นพัฒนาโครงการเกม Clair Obscur: Expedition 33 โดยเฉพาะ
Broche อธิบายว่า เนื่องจากเกมนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ที่มีเนื้อเรื่องและตัวละครที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด การผลักดันโครงการในลักษณะนี้ภายในองค์กรขนาดใหญ่อย่าง Ubisoft มักจะเผชิญกับอุปสรรคและความท้าทายจากระบบการทำงานและขั้นตอนภายในองค์กร ที่ซับซ้อน
"ใช่ครับ ชัดเจนอย่างยิ่ง โครงการประเภทนี้ ที่มี IP ใหม่ เรื่องราวดั้งเดิม ตัวละครดั้งเดิมทั้งหมด เป็นเรื่องที่ยากอย่างยิ่งที่จะผลักดันให้เกิดขึ้นได้ในบริษัทขนาดใหญ่" "มันมีขั้นตอนการขออนุมัติจำนวนมาก และโดยทั่วไปแล้ว ในโครงสร้างองค์กรขนาดใหญ่ คุณจำเป็นต้องพิสูจน์ตนเองและอยู่ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูงในลำดับชั้นการบริหารเสียก่อน จึงจะมีโอกาสเพียงพอที่จะนำเสนอโครงการในลักษณะนี้ได้"
Guillaume Broche
Broche แสดงความเชื่อมั่นว่า หาก Sandfall Interactive เลือกที่จะพัฒนาเกมนี้ร่วมกับผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ อาจจะต้องเผชิญกับอุปสรรคและข้อจำกัดต่างๆ มากมายในระหว่างทาง จนอาจส่งผลให้กระบวนการพัฒนาเกมนี้ยืดเยื้อยาวนานถึง 25 ปี เขากล่าวว่าตนเองไม่มีความอดทนมากพอที่จะรอได้นานขนาดนั้น นอกจากนี้ ทีมงานยังมีความต้องการที่จะ "ดำเนินงานในแนวทางของตนเอง และสร้างบรรยากาศ ที่เป็นเอกลักษณ์ขึ้นมาจริงๆ นั่นคือหัวใจสำคัญของเกมนี้ คือการสร้างบรรยากาศ" เขากล่าวเสริมว่า "และผมคิดว่าหากเราประสบความสำเร็จ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเราดำเนินงานในแนวทางที่ถูกต้อง เรามีสำนักงานที่ดี มีสวนขนาดใหญ่ เราเล่นเปตองด้วยกันทุกมื้อกลางวัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ปรากฏอยู่ในเกมด้วย การที่จะสร้างสรรค์เกมที่สะท้อนถึงความหลงใหลออกมาได้ เราจำเป็นต้องมีบรรยากาศแบบ 'กลุ่มเพื่อนที่ร่วมกันสร้างสรรค์บางสิ่งบางอย่าง' อย่างแท้จริง"
Broche อธิบายต่อไปว่า บรรยากาศการทำงานในลักษณะดังกล่าว "เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ เฉพาะในสตูดิโออินดี้เท่านั้น" เขากล่าว "ตัวเกมอาจจะดูมีขนาดใหญ่ แต่ที่นี่ใน Montpellier เรามีทีมงานเพียง 25 คน เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ดังนั้น ใช่ครับ มันเป็นเรื่องยากกว่ามากที่จะทำให้โครงการลักษณะนี้สำเร็จลุล่วงในสตูดิโอขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับสตูดิโอขนาดเล็ก แต่การเริ่มต้นก่อตั้งสตูดิโอของคุณเองก็เป็นเรื่องที่ยากมากเช่นกัน มันไม่ใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันเป็นงานที่หนักมาก ในฐานะผู้ก่อตั้ง คุณแทบจะไม่มีวันหยุดพักผ่อนและต้องเผชิญกับคืนที่ไม่ได้นอนเป็นเวลาหลายปี แต่มันก็คุ้มค่า คุ้มค่าอย่างยิ่ง"
ปัจจุบัน เกม Clair Obscur: Expedition 33 มีวางจำหน่ายแล้วบนแพลตฟอร์ม PC, PS5 และ Xbox Series X|S รวมถึงมีให้เล่นผ่านบริการ PC และ Xbox Game Pass ด้วย
ที่มา gamingbolt
